ช.
กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทจำเลยได้มีหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการลงวันที่ ๒๐
เมษายน ๒๕๕๕ โดยจำเลยได้รับหนังสือลาออกในวันเดียวกัน การลาออกจากตำแหน่งกรรมการของ
ช. มีผลเป็นการพ้นจากตำแหน่งนับตั้งแต่วันที่หนังสือลาออกไปถึง จำเลยคือวันที่ ๒๐
เมษายน ๒๕๕๕ แม้หนังสือลาออกระบุให้การลาออกมีผลในวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติ
ซึ่งเป็นเพียงการแสดงเจตนาฝ่ายเดียวของ ช. แต่หนังสือลาออกจะมีผลเป็นการพ้นจากตำแหน่งนับตั้งแต่เมื่อใดย่อมต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับของบริษัทจำเลยกำหนดไว้หรือตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เมื่อ ช. พ้นจากตำแหน่งกรรมการของจำเลยแล้วตั้งแต่วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๕
จึงมิใช่กรรมการของจำเลยที่จะมีอำนาจเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ จำเลยครั้งที่
๑/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕ ได้ กรณีมีเหตุให้เพิกถอนรายงานการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของจำเลยครั้งที่
๑/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕ และเพิกถอนมติของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยครั้งที่
๑/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕
เพิ่มเติม
ฎีกาที่
๒๗๔๗/๒๕๖๐ โจทก์ยื่นใบลาออกต่อจำเลยเพื่อลาออกจากตำแหน่งกรรมการโดยส่งหนังสือยืนยันการลาออกให้แก่กรรมการผู้จัดการของจำเลยไปยังที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของจำเลย
จำเลยได้รับหนังสือแล้วเมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ การลาออกมีผลนับแต่วันที่ ๗
สิงหาคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่ใบลาออกไปถึงจำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๑๕๓/๑ วรรคหนึ่ง
โจทก์จึงไม่ได้เป็นกรรมการของจำเลยอีกต่อไปแล้ว
การเริ่มต้นการเรียกประชุมวิสามัญ
๑.เรียกประชุมโดยกรรมการ
ซึ่งจะต้องดำเนินการในรูปคณะกรรมการ กล่าวคือจะต้องมีมติของกรรมการก่อน
กรรมการคนเดียวไม่มีอำนาจเรียกประชุมได้(ฎีกาที่ ๔๕๒/๒๕๑๘,๒๕๖๔/๒๕๓๒)
๒.เรียกประชุมโดยผู้ถือหุ้น
เมื่อผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าขอให้คณะกรรมการเรียกประชุม
เหตุที่จะมีการร้องขอเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ตามมาตรา
๑๑๙๕ เพราะเหตุฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และหรือข้อบังคับบริษัท ในเหตุ ๓
ประการ ดังนี้คือ
๑.การนัดประชุมไม่ชอบ
๒.การประชุมไม่ชอบ
๓.การลงมติไม่ชอบ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๑๕๓/๑ กรรมการคนใดจะลาออกจากตำแหน่ง
ให้ยื่นใบลาออกต่อบริษัท การลาออกมีผลนับแต่วันที่ใบลาออกไปถึงบริษัท
กรรมการซึ่งลาออกตามวรรคหนึ่ง
จะแจ้งการลาออกของตนให้นายทะเบียนทราบด้วยก็ได้
มาตรา ๑๑๗๒ กรรมการจะเรียกประชุมวิสามัญเมื่อใดก็ได้สุดแต่จะเห็นสมควร
มาตรา ๑๑๙๕ การประชุมใหญ่นั้นถ้าได้นัดเรียกหรือได้ประชุมกัน
หรือได้ลงมติฝ่าฝืนบทบัญญัติในลักษณะนี้ก็ดี หรือฝ่าฝืนข้อบังคับของบริษัทก็ดี
เมื่อกรรมการหรือผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคนใดร้องขึ้นแล้ว ให้ศาลเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่อันผิดระเบียบนั้นเสีย
แต่ต้องร้องขอภายในกำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันลงมตินั้น
อ้างอิง
เอื้อน ขุนแก้ว. กฎหมายหุ้นส่วนและบริษัท.
พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์บริษัท กรุงสยาม
พับลิชชิ่ง จำกัด, 2561.
0 Comments
แสดงความคิดเห็น