หนังสือมอบอำนาจกับหนังสือสัญญาค้ำประกันที่จำเลยที่ ๑ ทำปลอมขึ้นจะเป็นเอกสารคนละประเภทกันและเขียนวันที่คนละวันกัน แต่ก็เป็นการกระทำที่มีเจตนาเดียวกัน คือเพื่อให้ได้เงินกู้จากโจทก์ การกระทำของจำเลยที่ ๑ จึงเป็นความผิดกรรมเดียว
                หนังสือมอบอำนาจเป็นเพียงเอกสารที่บุคคลหนึ่งเป็นผู้มอบอำนาจมอบหมายให้บุคคลอีกคนหนึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจให้มีอำนาจจัดการทำนิติกรรมแทน มิได้เป็นเอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ หนังสือมอบอำนาจจึงไม่เป็นเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑ (๙)
                สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน  แม้เอกสารดังกล่าวจะเป็นเอกสารราชการ แต่มีเพียงการปลอมลายมือชื่อของเจ้าของบัตรและเจ้าของทะเบียนบ้านลงในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านที่แท้จริง โดยไม่มีการเติมหรือตัดทอนข้อความ  แก้ไขสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ให้แตกต่างไปแต่อย่างใดสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านดังกล่าว ยังคงเป็นเอกสารที่แท้จริง การปลอมลายมือชื่อเจ้าของบัตรและเจ้าของทะเบียนบ้านลงในสำเนาบัตรและสำเนาทะเบียนบ้าน จึงเป็นเพียงการปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔ วรรคแรก

เพิ่มเติม
                การลงลายมือชื่อปลอมในเอกสารนั้น หมายความว่าไม่ได้มีการปลอมส่วนอื่นๆด้วย เช่น ไม่ได้กรอกข้อความอื่นๆลงในเอกสารด้วย ซึ่งหากมีการกระทำเช่นนั้นด้วยต้องถือว่าเป็นการปลอมเอกสารทั้งฉบับ
                ฎีกาที่ ๓๘๗๓/๒๕๕๑ การที่จำเลยปลอมลายมือชื่อของโจทก์ร่วมในบัตร ATM ของโจทก์ร่วม แม้ลายมือชื่อปลอมจะไม่ใช่สาระสำคัญของการใช้บัตร ATM รายการทำรายการเบิกถอนเงินที่ตู้เบิกถอนเงิน ATM ก็ตาม การกระทำของจำเลยที่ลงลายมือชื่อปลอมที่หลังบัตร ATM ของโจทก์ร่วมก็ถือว่าน่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมและธนาคารผู้ออกบัตรและได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารแท้จริงอันเป็นการครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๖๔ วรรคแรกประกอบมาตรา ๒๖๕
                ฎีกาที่ ๑๒๑๓๗/๒๕๕๘ ความผิดฐานปลอมเอกสารต้องเป็นการกระทำต่อเอกสารอันเป็นผลให้เอกสารนั้นผิดแผกแตกต่างไป ด้วยเจตนาให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารที่แท้จริง แม้สำเนาบัตรประชาชน จะเป็นเอกสารราชการ แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่ามีเพียงการปลอมลายมือชื่อของโจทก์ร่วมลงในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนที่แท้จริงของโจทก์ร่วม โดยไม่มีการเติมหรือตัดทอนข้อความ แก้ไขสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แตกต่างไปจากสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนนี้แต่อย่างใด สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวยังคงเป็นเอกสารที่แท้จริง การปลอมลายมือชื่อโจทก์ร่วมลงในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนจึงเป็นการเพียงการปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๖๔ วรรคแรกเท่านั้น
                ฎีกาที่ ๑๔๕๐๕/๒๕๕๗ การปลอมลายมือชื่อของผู้อื่นลงในเอกสารเป็นองค์ประกอบความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔ วรรคแรกส่วนการกรอกข้อความลงในเอกสารซึ่งมีรายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้นั้นเป็นองค์ประกอบความผิดตามมาตรา ๒๖๔ วรรคสอง ซึ่งองค์ประกอบของการกระทำในมาตรา ๒๖๔ วรรคแรกและวรรคสองแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือ เป็นการปลอมลายมือชื่อหรือเป็นการปลอมข้อความ

อ้างอิง
เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์. กฎหมายอาญา ภาคความผิด เล่ม ๒ พิมพ์ครั้งที่ ๖ แก้ไขเพิ่มเติม. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์กรุงสยามพับลิชชิ่ง, ๒๕๕๗.

ประมวลกฎหมายอาญา
                มาตรา ๑  ในประมวลกฎหมายนี้
                (๙) เอกสารสิทธิหมายความว่า เอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ
                มาตรา ๙๐ เมื่อการกระทำใดอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่ผู้กระทำความผิด
                มาตรา ๒๖๔ ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
                ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน