ฎีกาที่ 346/2564; การจำนองไม่ตัดตอนเวลา: การที่เจ้าของที่ดินเดิมนำที่ดินไปจดทะเบียนจำนองแก่บุคคลภายนอก ไม่ถือเป็นการโต้แย้งสิทธิ และ ไม่มีผลทำให้อายุความการครอบครองปรปักษ์สะดุดหยุดลง >>> การนับระยะเวลา 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 ถือเอาระยะเวลาฝ่ายผู้ครอบครองเป็นสำคัญ ตราบใดที่ยังครอบครองโดยสงบ เปิดเผย และเจตนาเป็นเจ้าของ >>> วันครบกำหนดสิทธิ: แม้เจ้าของเดิมจะเพิ่งไถ่ถอนจำนองไม่ถึง 10 ปี แต่หากผู้ร้องครอบครองที่ดินมาก่อนหน้านั้นรวมแล้วเกิน 10 ปี ย่อมได้กรรมสิทธิ์ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มนับเวลาใหม่หลังไถ่ถอน
คำพิพากษาฎีกาที่
346/2564 ตอนที่ 1 หน้า 43
ผ. ขายที่ดินพิพาทให้แก่ผู้ร้อง
เมื่อการครอบครองที่ดินพิพาทของผู้ร้องไม่ปรากฏว่ามีบุคคลใดโต้แย้งคัดค้าน
การเข้าครอบครองที่ดินพิพาทของผู้ร้องเป็นการเข้าครอบครองโดยความสงบและโดย
เปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
การนับระยะเวลาในการครอบครองติดต่อกันตามประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ถือเอาระยะเวลาครอบครองของฝ่ายผู้ครอบครอง การที่
ผ. เจ้าของที่ดินนำที่ดินพิพาทไปจดทะเบียนจำนองหามีผลกระทบต่อการนับระยะเวลาในการครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาทไม่
เมื่อผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทมาจนถึงวันฟ้องเป็นระยะเวลาติดต่อกันเกินกว่า 10
ปีแล้ว
ผู้ร้องย่อมได้ไปซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตามบทกฎหมายดังกล่าว
ตามฎีกานี้ ผู้คัดค้านฎีกาว่า ผ. เจ้าของเดิมมีการนำโฉนดที่ดินพิพาท
จดทะเบียนจำนองต่อสถาบันการเงินอันเป็นการกระทบสิทธิครอบครองของผู้ร้องมาโดยตลอด
เพิ่งมีการชำระเงินแก่เจ้าหนี้และจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองเพื่อค้ำประกันหนี้กู้ยืมเมื่อปี
2552 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ต่อศาลในวันที่ 26 ธันวาคม 2560
จึงยังไม่ครบกำหนดระยะเวลา 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1382
บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ
ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี
ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้
ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์
