พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ ทวิ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่าห้ามมิให้ผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ทั้งนี้ ตามที่ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งคำว่า ทั้งนี้ หมายความว่า ตามที่กล่าวมานี้ ดังนี้ คำว่าตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา จึงครอบคลุมถึงยาเสพติดให้โทษ และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ที่กล่าวนั้นแต่เฉพาะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปด้วย อันเป็นการให้อำนาจแก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะได้พิจารณาว่า ยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทใด ชนิดใดมีการแพร่ระบาดไปในหมู่ประชาชนผู้ขับขี่ยานพาหนะ อันอาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชนและความสงบสุขของสังคมในวงกว้าง ก็จะได้กำหนดเป็นกรณี ๆ ไป ดังนี้ เมื่อยังไม่ปรากฏว่าได้มีการออกข้อกำหนด ห้ามมิให้ผู้ขับขี่เสพฝิ่น ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ ตามกฎหมาย ว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ การกระทำของจำเลยที่ ๑ จึงไม่เป็นความผิดฐานเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ ทวิ วรรคหนึ่ง, ๑๕๗/๑ วรรคสอง

เพิ่มเติม
               มีข้อกำหนดกรมตำรวจ เรื่อง กำหนดชื่อและประเภทของวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทและประเภทของรถที่ใช้เจ้าพนักงานมีอำนาจตรวจสอบผู้ขับขี่ ซึ่งประกาศใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๓๗ ซึ่งยังมีผลใช้บังคับจนถึงปัจจุบันนี้ กำหนดห้ามมิให้ผู้ขับขี่เสพหรือรับเข้าร่างกายไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ ซึ่งวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตหรือประสาท ดังต่อไปนี้ (๑) แอมเฟตามีน (๒) เมทแอมเฟตามีน ซึ่งมีอยู่ ๒ ชนิด เท่านั้น  

พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒
               มาตรา ๔๓ ทวิ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ทั้งนี้ ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา