จำเลยดึงสร้อยคอทองคำของผู้เสียหายที่สวมอยู่ที่คอจนขาดติดมือแล้ววิ่งไป ระหว่างทางจำเลยทำท่าเหมือนขว้างสร้อยคอทองคำทิ้ง แต่มิได้แบมือ ทั้งยังพูดว่าสร้อยมึง มึงอยากได้ถึงติดตามเอากูขว้างทิ้งแล้ว เป็นการแย่งการครอบครองสร้อยคอทองคำไปจากผู้เสียหาย โดยจำเลยมีเจตนาเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไป อันเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองแล้ว อันเป็นลักษณะการฉกฉวยเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปซึ่งหน้าโดยทุจริต จำเลยมีความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๖ วรรคแรก
               จำเลยบีบคอและใช้ฝ่ามือตบบริเวณใบหน้าและริมฝีปาก ผู้เสียหายมีบาดแผลถลอกที่ข้อศอกซ้ายขนาด ๓ เซนติเมตร ที่ริม ฝีปากล่างมุมซ้ายด้านในขนาด ๑ เซนติเมตร ที่แก้มซ้ายขนาด ๑ เซนติเมตร และมีบาดแผลฟกช้ำบวมที่หน้าผากขวาขนาด ๓ เซนติเมตร แพทย์ลงความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณ ๕ วัน หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๑
               โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๑ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยในการกระทำความผิดตามที่พิจารณาได้ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒ วรรคท้าย ได้

               ตามฎีกานี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกรทำความผิดหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ จำเลยทำร้าย บ. ผู้เสียหาย โดยใช้มือบีบคอ ๑ ครั้ง แล้วใช้ฝ่ามือ ตบบริเวณใบหน้าและริมฝีปาก ๒ ครั้ง เป็นเหตุให้ผู้เสียหายเกิดอันตรายแก่หรือจิตใจ แล้วลักสร้อยคอทองคำลายเกล็ดมังกรด้านหน้าลายปล้องอ้อย หนัก ๑ บาท ๑ เส้น พร้อมจี้ทองคำรูปใบไม้ด้านในมีรูปพระนั่งสมาธิ ๑ อัน ราคา ๒๗,๕๐๐ บาท ของผู้เสียหายไปโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า ใช้กำลังกระชากสร้อยคอพร้อมจี้ดังกล่าว ไปจากคอผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑, ๒๙๕, ๓๓๖ และขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๒๗,๕๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
              
เพิ่มเติม
               ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ความสำคัญอยู่ที่ว่า ทรัพย์นั้นจะต้องอยู่ที่ตัว ใกล้กับตัว หรือใกล้ชิดกับตัวผู้ครองทรัพย์
               คำว่า ฉกฉวยเอาซึ่งหน้า หมายความว่ากิริยาที่หยิบหรือกระชากทรัพย์ไปโดยใช้กำลัง

ประมวลกฎหมายอาญา
               มาตรา ๓๓๖ ผู้ใดลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า ผู้นั้นกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

อ้างอิง
สุปัน พูลพัฒน์. คำอธิบายเรียงมาตราประมวลกฎหมายอาญา,ไม่ปรากฏสำนักพิมพ์, ๒๕๐๖.
หยุด แสงอุทัย. กฎหมายอาญา ภาค ๒-๓ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑๐. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๘.