คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๔/๒๕๖๗  

               ฟ้องโจทก์บรรยายองค์ประกอบความผิดว่า จําเลยทั้งสามร่วมกันทำร้ายชกต่อยใบหน้าของผู้ร้องที่ ๓ เป็นเหตุให้มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณขมับซ้ายโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ แสดงว่าโจทก์มิได้ประสงค์ขอให้ลงโทษจําเลยทั้งสามฐานร่วมกันทำร้ายผู้ร้องที่ ๓ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ คําพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๖ ที่ปรับบทลงโทษตามมาตรา ๒๙๕ มาด้วย จึงเป็นการพิพากษาเกินคําขอหรือที่มิได้กล่าวในฟ้อง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒ วรรคแรก

               ฟ้องโจทก์บรรยายองค์ประกอบความผิดว่า จําเลยทั้งสามร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้าน อันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายที่ ๑ และที่ ๒ โดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันสมควร แล้วร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายที่ ๑ และที่ ๓ โดยไม่ได้บรรยาย ฟ้องถึงองค์ประกอบความผิดว่าจําเลยทั้งสามกระทำโดยใช้กําลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕ (๑) แม้โจทก์จะมีคําขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕ ศาลล่างทั้งสองจะพิพากษาลงโทษจําเลยทั้งสามตามมาตรา ๓๖๕ (๑) ไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒ วรรคแรก

 

  • คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งห้ากับพวกสมคบกันเพื่อกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ อันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๒๙๕ ซึ่งเป็นความผิดที่บัญญัติไว้ในภาค ๒ และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป โดยไม่ได้บรรยายฟ้องถึงองค์ประกอบความผิดว่า ความผิดนั้นมีระวางโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป แม้โจทก์จะมีคำขอให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าตาม ป.อ. มาตรา ๒๑๐ ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ จะพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งห้าตามมาตรา ๒๑๐ วรรคสอง ไม่ได้ เพราะต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๙๒ วรรคหนึ่ง ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๒๕(ฎีกาที่ ๑๕๙/๒๕๖๔)

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

มาตรา ๑๙๒ วรรคแรกห้ามมิให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในข้อหาที่ไม่ปรากฏในคำฟ้อง หรือมิได้เป็นไปตามคำฟ้อง เว้นแต่เป็นกรณีที่จำเลยให้การรับสารภาพ หรือไม่คัดค้าน และศาลเห็นว่ามิได้เสียหายแก่จำเลย