คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๒๗/๒๕๖๗
กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐ
และมีวัตถุประสงค์ตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗
มาตรา ๑๑ และกองทุนหมู่บ้านจําเลยจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามมาตรา ๓ ประกอบมาตรา ๕
แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกันเป็นนิติบุคคลมหาชน มิใช่นิติบุคคลเอกชน
จึงเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐประเภทหนึ่งที่จัดตั้งขึ้นเพื่อจัดทำภารกิจของรัฐโดยไม่ได้มุ่งหวังผลกําไรตอบแทน
ดังนั้น เงินฝากในบัญชีของกองทุนหมู่บ้านจําเลยกับธนาคารผู้คัดค้าน เป็นเงินที่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติจัดสรรให้จําเลยเพื่อเป็นเงินอุดหนุน
แม้จะมีเงินบริจาคแต่ก็เป็นการบริจาคเพื่อช่วยเหลือการจัดทำบริการสาธารณะของรัฐตามมาตรา
๑๒ จึงเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินที่ไม่อาจยึดหรืออายัดได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๐๗
และไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๓๐๑ (๕)
พระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๑๔
กําหนดให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
เป็นบทยกเว้นมาตรา ๒๔ ที่บัญญัติว่า “บรรดาเงินที่ส่วนราชการ
ได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ไม่ว่าจะได้รับตามกฎหมายหรือระเบียบ ข้อบังคับ
หรือได้รับตามอำนาจหน้าที่หรือสัญญาหรือได้รับจากการให้ใช้ทรัพย์สินหรือเก็บดอกผลจากทรัพย์สินของทางราชการ
ให้ส่วนราชการที่ได้รับเงินนั้นนําส่งคลังตามระเบียบหรือข้อบังคับที่รัฐมนตรีกำหนด
เว้นแต่ อันเป็นการจัดทำบริการสาธารณะของรัฐ
โดยจําเลยมิได้มีเจตนารมณ์ในการรับฝากเงินเพื่อหากําไรในทางธุรกิจหรือพาณิชยกรรม
เงินที่ฝากไว้กับธนาคารผู้คัดค้านในบัญชีของจําเลยนั้นเป็นเงินของสมาชิก มิใช่
เงินของจําเลยที่จะยึดหรืออายัดเพื่อบังคับคดีชําระหนี้แก่โจทก์ทั้งสองได้ตาม
ป.วิ.พ. มาตรา ๓๐๓ และมาตรา ๓๑๖
- แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะแจ้งอายัดสิทธิเรียกร้องบัญชีเงินฝากของจำเลยไว้ก่อนที่ศาลชั้นต้นในคดีฟอกเงินจะมีคำสั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินก็ตาม
แต่หากเจ้าหนี้สามัญมีสิทธิยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งอายัดไว้ชั่วคราวได้
อาจทำให้ทรัพย์สินดังกล่าวไม่มีอยู่
จนไม่มีเหตุที่จะไต่สวนและมีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน
และหากต่อมาศาลในคดีฟอกเงินมีคำสั่งให้ทรัพย์สินของจำเลยรวมถึงสิทธิเรียกร้องเป็นเงินในบัญชีเงินฝากของจำเลยตกเป็นของแผ่นดิน
นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเป็นต้นไป ห้ามมิให้ยึดหรืออายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยดังกล่าวเพื่อการบังคับคดีไม่ว่าด้วยเหตุใดตาม
ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๐๗
หากโจทก์เห็นว่าตนเป็นผู้มีสิทธิในเงินตามบัญชีเงินฝากของจำเลย
โจทก์ต้องไปดำเนินการในคดีฟอกเงินตามมาตรา ๕๓
ซึ่งบัญญัติถึงขั้นตอนในการดำเนินการไว้เป็นการเฉพาะแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในหนี้สามัญ
ไม่อาจดำเนินการบังคับคดีเพื่อให้มีผลถึงการดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีฟอกเงินได้(ฎีกาที่
๕๕๑๘/๒๕๖๔),
- การฟ้องคดีล้มละลายมิใช่เป็นการฟ้องเพื่อบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ดังเช่นคดีแพ่งทั่วไป
แต่เป็นการฟ้องเพื่อดำเนินการเข้าจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
ทั้งนี้เพื่อที่จะนำเงินที่ได้จากการจัดการทรัพย์สินนั้นมาแบ่งชำระหนี้ให้แก่บรรดาเจ้าหนี้
ดังนั้น
กระบวนพิจารณาคดีล้มละลายจึงเป็นกระบวนการที่จะต้องดำเนินการรวบรวมและจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้
แล้วนำมาจัดสรรแบ่งชำระหนี้ให้แก่บรรดาเจ้าหนี้ของลูกหนี้ จำเลยที่ ๑
มีฐานะเป็นหน่วยงานราชการของรัฐ ทรัพย์สินของจำเลยที่ ๑
ถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ย่อมไม่อาจยึดเพื่อการบังคับคดีไม่ว่าด้วยเหตุใด
ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๐๗
จึงเป็นทรัพย์สินที่ตามกฎหมายไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
ทั้งจำเลยที่ ๑ ยังมีอำนาจหน้าที่ตามที่ พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.๒๔๙๖
กำหนดไว้ และการจะได้รับชำระหนี้ของส่วนราชการนั้น
โจทก์ย่อมสามารถกระทำได้โดยวิธีการอื่น เช่น
การเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณแผ่นดิน เป็นต้น
นอกจากการฟ้องขอให้หน่วยงานราชการของรัฐตกเป็นบุคคลล้มละลายซึ่งไม่อาจกระทำได้
โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ ๑ ให้ล้มละลาย(ฎีกาที่ ๕๙๖๙/๒๕๕๙),
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๓๐๑ ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาต่อไปนี้
ย่อมไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
(๑) เครื่องนุ่งห่มหลับนอน เครื่องใช้ในครัวเรือน
หรือเครื่องใช้สอยส่วนตัว โดยประมาณรวมกันราคาไม่เกินประเภทละสองหมื่นบาท
แต่ในกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นสมควร
เจ้าพนักงานบังคับคดีจะกำหนดให้ทรัพย์สินแต่ละประเภทดังกล่าวที่มีราคารวมกันเกินสองหมื่นบาทเป็นทรัพย์สินที่ไม่ต้องอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีก็ได้
ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความจำเป็นตามฐานะของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
(๒) สัตว์ สิ่งของ เครื่องมือ เครื่องใช้
ในการประกอบอาชีพหรือประกอบวิชาชีพเท่าที่จำเป็นในการเลี้ยงชีพของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ราคารวมกันโดยประมาณไม่เกินหนึ่งแสนบาท
แต่ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษามีความจำเป็นในการเลี้ยงชีพก็อาจร้องขอต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขออนุญาตใช้สัตว์
สิ่งของ เครื่องมือ
เครื่องใช้เท่าที่จำเป็นในการประกอบอาชีพหรือประกอบวิชาชีพในกิจการดังกล่าวของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอันมีราคารวมกันเกินกว่าจำนวนราคาที่กำหนดนั้น
ในกรณีเช่นนี้
ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตหรืออนุญาตได้เท่าที่จำเป็นภายในบังคับแห่งเงื่อนไขตามที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นสมควร
(๓) สัตว์ สิ่งของ เครื่องใช้
และอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ทำหน้าที่ช่วยหรือแทนอวัยวะของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
(๔)
ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอันมีลักษณะเป็นของส่วนตัวโดยแท้ เช่น
หนังสือสำหรับวงศ์ตระกูลโดยเฉพาะ จดหมาย หรือสมุดบัญชีต่าง ๆ
(๕) ทรัพย์สินอย่างใดที่โอนกันไม่ได้ตามกฎหมาย
หรือตามกฎหมายย่อมไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
ทรัพย์สินหรือจำนวนราคาทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนดตามวรรคหนึ่ง
ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งกำหนดใหม่ได้
คำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีดังกล่าวนั้น
ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจร้องคัดค้านต่อศาลได้ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี
ในกรณีเช่นนี้ ให้ศาลมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร
ในกรณีที่พฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป
ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินหรือจำนวนราคาทรัพย์สินที่ศาลกำหนดไว้เดิมได้
ประโยชน์แห่งข้อยกเว้นที่บัญญัติไว้ในมาตรานี้
ให้ขยายไปถึงทรัพย์สินตามวรรคหนึ่งอันเป็นของคู่สมรสของลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือของบุคคลอื่น
ซึ่งทรัพย์สินเช่นว่านี้ตามกฎหมายอาจบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้
0 Comments
แสดงความคิดเห็น