คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๔๕๑/๒๕๖๗
สัญญาจํานองที่ดินไม่มีข้อตกลงว่า
หากมีการบังคับชําระหนี้จากทรัพย์จํานองแล้วได้เงินไม่พอชําระหนี้
ลูกหนี้ผู้จํานองยังจะต้องรับผิดชําระเงินที่ยังขาดจำนวนอยู่จนครบถ้วน
จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๓๓
ที่ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงินที่ยังขาดจำนวนอยู่
โจทก์ไม่อาจมีคําขอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจําเลยออกขายทอดตลาดนําเงินมาชําระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วนได้
และเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ศาลฎีกายกขึ้นอ้างและแก้ไขให้ถูกต้องได้ ตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา
๑๔๒ (๕) ประกอบมาตรา ๒๔๖ และมาตรา ๒๕๒
- แม้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่
๑ ชำระหนี้กู้ยืมอันเป็นหนี้ประธานก่อนก็ตาม แต่โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องด้วยว่า หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์
และบังคับเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองได้จนกว่าโจทก์จะได้รับชำระหนี้ครบถ้วน
แสดงว่าโจทก์ประสงค์จะบังคับคดีเอาจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์จำนอง
จึงเป็นการฟ้องบังคับจำนองด้วย เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าสัญญาจำนองไม่มีข้อตกลงกันว่า
หากโจทก์ผู้รับจำนองเอาทรัพย์ที่จำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้แก่ผู้รับจำนองได้เงินสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระให้ยึดทรัพย์สินอื่นของผู้จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาใช้หนี้แก่ผู้รับจำนองโดยครบถ้วนอันเป็นการตกลงยกเว้น
ป.พ.พ. มาตรา ๗๓๓ ไว้ ดังนั้น เมื่อโจทก์ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์
หากได้เงินมาไม่พอชำระหนี้ โจทก์ไม่อาจขอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วนได้
ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน(ฎีกาที่
๖๖๑๒/๒๕๕๙(ป)),
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๗๓๓ ถ้าเอาทรัพย์จำนองหลุดและราคาทรัพย์สินนั้นมีประมาณต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่ก็ดี
หรือถ้าเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้
ได้เงินจำนวนสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่นั้นก็ดี
เงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใดลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงินนั้น
0 Comments
แสดงความคิดเห็น