คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๓๓/๒๕๖๒ 
               ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ครบกำหนดระยะเวลายื่นฎีกาภายใน ๑ เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๗ (เดิม) ในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๐ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์และเป็นวันขึ้นปีใหม่อันเป็นวันหยุดราชการ วันที่ ๒ และ ๓ มกราคม ๒๕๖๐ ตรงกับวันจันทร์และวันอังคารเป็นวันหยุดราชการชดเชยวันสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่ จำเลยมีสิทธิยื่นฎีกาในวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่เริ่มทำการใหม่ได้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๘ จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาเมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๐ จึงเป็นการยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นฎีกาแล้ว
               ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาแก่จำเลยเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลายื่นฎีกาแล้วได้ จำเลยจะต้องอ้างถึงเหตุสุดวิสัยที่ทำให้จำเลยไม่สามารถยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาก่อนสิ้นระยะเวลายื่นฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ แต่ตามคำร้องจำเลยอ้างว่าจำเลยเพิ่งได้รับสำเนาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ขอคัดถ่ายไว้ ทำให้ไม่อาจทำฎีกายื่นได้ทันภายในกำหนด เป็นการอ้างถึงพฤติการณ์พิเศษที่ทำให้ไม่สามารถยื่นฎีกาได้ภายในกำหนดเพื่อขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาออกไปเท่านั้น มิใช่เหตุสุดวิสัยที่ทำให้จำเลยไม่สามารถยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาได้ก่อนสิ้นเวลาที่กฎหมายกำหนดเพื่อขอขยายระยะเวลาเมื่อพ้นกำหนดเวลาแล้วไม่ ศาลฎีกาไม่อาจพิจารณาขยายระยะเวลายื่นฎีกาเมื่อพ้นกำหนดเวลาแล้วให้แก่จำเลยตามคำร้องได้

                    ตามฎีกานี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาเมื่อพ้นกำหนด ทั้งไม่ปรากฏเหตุสุดวิสัยที่ไม่อาจยื่นคำร้องได้ทันภายในกำหนดแต่อย่างใด จึงให้ยกคำร้อง

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
               มาตรา ๑๙๓/๘ ถ้าวันสุดท้ายของระยะเวลาเป็นวันหยุดทำการตามประกาศเป็นทางการหรือตามประเพณี ให้นับวันที่เริ่มทำการใหม่ต่อจากวันที่หยุดทำการนั้นเป็นวันสุดท้ายของระยะเวลา

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
               มาตรา ๒๓ เมื่อศาลเห็นสมควรหรือมีคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ให้ศาลมีอำนาจที่จะออกคำสั่งขยายหรือย่นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายนี้หรือตามที่ศาลได้กำหนดไว้ หรือระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณาความแพ่งอันกำหนดไว้ในกฎหมายอื่น เพื่อให้ดำเนินหรือมิให้ดำเนินกระบวนวิธีพิจารณาใด ๆ ก่อนสิ้นระยะเวลานั้นแต่การขยายหรือย่นเวลาเช่นว่านี้ให้พึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย