คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๑๖/๒๕๖๑ 

               จำเลยที่ ๒ ให้การเพียงว่า จำเลยที่ ๑ มิได้เป็นลูกจ้างหรือ ผู้ทำการแทนหรือเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องใด ๆ กับจำเลยที่ ๒ ในเหตุที่ขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุ จำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ โดยมิได้แสดงเหตุแห่งการปฏิเสธดังนี้ คำให้การของจำเลยที่ ๒ เป็นเพียงคำให้การปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ จำเลยที่ ๒ ไม่มีสิทธินำสืบพยานถึงเหตุแห่งการปฏิเสธ ที่จำเลยที่ ๒ นำสืบว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างของ ช. โดยก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ ๒ ให้ ช. เช่ารถบรรทุกพ่วงคันที่ก่อเหตุไปแล้ว โจทก์ฟ้องผิดตัว ความจริงโจทก์ต้องฟ้อง ช. ซึ่งเป็นนายจ้างที่แท้จริง จึงเป็นการนำสืบนอกคำให้การ

 

               ตามฎีกานี้ คำให้การที่มิได้แสดงเหตุแห่งการปฏิเสธ มีผลทำให้ไม่มีสิทธินำสืบพยานถึงเหตุแห่งการปฏิเสธ หากมีการนำสืบถือว่าเป็นการนำสืบนอกคำให้การ

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

               มาตรา ๑๗๗ วรรคสอง ให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า จำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น