คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๐๐/๒๕๖๓ 

               ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๓ บัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดกระทำความผิดซึ่งมีโทษจำคุก และ ในคดีนั้นศาลจะลงโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน ถ้าไม่ปรากฏว่าผู้นั้น ได้รับโทษจำคุกมาก่อน หรือปรากฏว่าได้รับโทษจำคุกมาก่อน แต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ศาลจะพิพากษาให้ลงโทษกักขังไม่เกินสามเดือนแทนโทษจำคุกนั้น ก็ได้” จะเห็นได้ว่าบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวให้อำนาจศาลในการที่จะใช้ดุลพินิจลงโทษกักขังแทนโทษจำคุกก็ได้ หากเข้าเงื่อนไขตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายดังกล่าว แต่เป็นการกักขังแทนโทษจำคุก กำหนดเวลากักขังต้องเท่ากับโทษจำคุกที่ศาลลงโทษแก่ผู้นั้น ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยแก้ไขให้ถูกต้องได้ตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๒๕

 

หมายเหตุ

               ตามฎีกานี้ ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ใช้ดุลพินิจเปลี่ยนโทษจำคุก ๑ เดือน เป็นโทษกักขังแทนมีกำหนด ๒ เดือน

               ศาลฎีกาวางหลักไว้ว่า “กำหนดเวลากักขังต้องเท่ากับโทษจำคุกที่ศาลลงโทษแก่ผู้นั้น”