คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๙๐๐/๒๕๖๒ 

               โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทได้มาโดยผู้ให้และ ผู้ขายส่งมอบที่ดินพิพาทและโจทก์เข้าครอบครองยึดถือเพื่อตน เป็นการ ได้มาซึ่งสิทธิครอบครองโดยผลของกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา ๑๓๖๗ และมาตรา ๑๓๗๔ ตั้งแต่ก่อนที่จำเลยที่ ๑ จะนำที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ ก.) ทั้งแปลง ซึ่งรวมทั้งที่ดินพิพาทไปจดทะเบียนขายฝากแก่จำเลยที่ ๒ การจดทะเบียน ขายฝากของจำเลยที่ ๑ เป็นการกระทำไปโดยไม่มีสิทธิ และไม่ทำให้จำเลยที่ ๒ ผู้รับซื้อฝากมีสิทธิดีกว่าจำเลยที่ ๑ ผู้ขายฝาก โจทก์ในฐานะเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองย่อมใช้สิทธิติดตามเอาคืนซึ่งที่ดินพิพาทของ ตนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๖

               การได้มาซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์โดยผลของกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๖๗ และ มาตรา ๑๓๗๘ มีผลสมบูรณ์ทันที แม้จะยังไม่ได้มีการจดทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตาม และนับตั้งแต่นั้นจำเลยที่ ๑ ไม่ใช่เจ้าของที่ดินพิพาทแล้ว จำเลยที่ ๑ ย่อมไม่มีสิทธินำที่ดินพิพาทไปจดทะเบียนขายฝากแก่จำเลยที่ ๒ อีกต่อไป การกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และไม่ทำให้การขายฝากมีผลสมบูรณ์อันจะทำให้จำเลยที่ ๒ อยู่ในฐานะผู้มีสิทธิครอบครองโดยชอบ โดยไม่จำต้องพิจารณาว่าจำเลยที่ ๒ เป็นผู้รับซื้อฝากโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนหรือไม่ และเป็นบุคคลผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนอยู่ก่อนหรือไม่

 

หลักผู้รับโอนมี่สิทธิดีกว่าผู้โอน

               หลัก Nemo dat qui non habet แปลตามตัวอักษรได้ว่า “บุคคลไม่สามารถให้สิ่งที่เขาไม่มี”