โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่า จำเลยกับพวกอีกหลายคนซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ซึ่งคำว่าหลายคนเป็นที่เข้าใจได้ว่าตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป กรณีหาจำต้องระบุจำนวนคนและชื่อของผู้ร่วมกระทำความผิดทุกคนไม่ ทั้งองค์ประกอบความผิดข้อหาปล้นทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคแรก บัญญัติว่าผู้กระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่า จำเลยกับพวกอีกหลายคนแล้วบรรยายต่อมาเพียงว่าจำเลยกับพวก ก็ย่อม เป็นที่เข้าใจได้ว่าจำเลยกับพวกอีกหลายคนนั้นหมายถึงคนร้ายที่กระทำความผิดมีจำนวนตั้งแต่สามคนขึ้นไปแล้ว ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ครบองค์ประกอบความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคแรก ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ (๕)

               ตามฎีกานี้ ฟ้องโจทก์ครบองค์ประกอบหรือไม่ โดยฟ้องโจทก์บรรยายว่า “เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่หลบหนี...” ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏว่า มีคนร้ายซึ่งเป็นวัยรุ่น ๖ ถึง ๗ คน ใช้อาวุธมีดและอาวุธปืนจี้บังคับผู้เสียหายเอารถจักรยายนต์และโทรศัพท์เคลื่อนที่ไป

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
               มาตรา ๑๕๘ ฟ้องต้องทำเป็นหนังสือ และมี
               (๕) การกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
               ในคดีหมิ่นประมาท ถ้อยคำพูด หนังสือ ภาพขีดเขียนหรือสิ่งอื่นอันเกี่ยวกับข้อหมิ่นประมาท ให้กล่าวไว้โดยบริบูรณ์หรือติดมาท้ายฟ้อง