ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้มีข้อความใดที่ยืนยันหรือทำให้เข้าใจได้ว่า จำเลยแย่งการครอบครองอาวุธปืนของโจทก์อันจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ทั้งข้อเท็จจริงได้ความตามที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเอาอาวุธปืนของโจทก์ไปโดยบอกว่าเอาไปชั่วคราว และจะนำมาคืนให้เมื่อใช้สอยเสร็จแล้ว เท่ากับว่าโจทก์ไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงในการกระทำผิดของจำเลยให้ตรงตามบทกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔ เป็นคำฟ้องที่ขัดแย้งกันในข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญของการกระทำผิด ไม่ชัดแจ้งเพียงพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีให้ถูกต้อง จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ (๕) ประกอบกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๔ และพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้ บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.๒๕๒๐ มาตรา ๓

               ตามฎีกานี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่สมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเสียก่อนว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่
              
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
               มาตรา ๑๕๘ ฟ้องต้องทำเป็นหนังสือ และมี
               (๕) การกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี