ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการทรัพย์ใดๆใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ องค์ประกอบภายใน คือเจตนาทุจริต หมายถึง เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
                โครงการอาหารกลางวันสำหรับเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นนโยบายของ ป. ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยตั้งจำเลยทั้งสามเป็นกรรมการผู้ดำเนินการและจำเลยทั้งสามไม่เคยทำมาก่อน จึงได้ไปสอบถาม ช. ผู้ทำหน้าที่การเงิน ช. ไม่ได้แนะนำว่าให้ยืมเงินงบประมาณสำรองเพื่อใช้ในโครงการก่อน เมื่อเงินงบประมาณส่งมา ช. ก็ไม่ได้แจ้งให้จำเลยทั้งสามทราบจนสิ้นกำหนดระยะเวลาตามโครงการและโรงเรียนปิดเทอม จึงแจ้งให้จำเลยทั้งสามมารับเงิน ซึ่งที่ถูกแล้วต้องไม่จ่ายเงิน เนื่องจากไม่อาจจะไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ได้ ส่วนเงินที่จ่ายได้นำไปเข้าบัญชีมีชื่อจำเลยที่ ๑ หรือ ป. จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท และ ป. ให้เก็บเป็นเงินสดอีกจำนวน ๒๒,๐๐๐ บาท ซึ่งบัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีเพื่อสวัสดิการของโรงเรียนผู้อำนวยการมีอำนาจสั่งจ่ายและนำไปใช้โดยจำเลยทั้งสามไม่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว เมื่อมีการตรวจสอบผู้อำนวยการได้สั่งให้นำเงินจำนวน ๗๒,๐๐๐ บาท จากบัญชีดังกล่าวมาเข้าบัญชีของโรงเรียน เห็นได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของผู้อำนวยการโรงเรียน จำเลยทั้งสามเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาต้องทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชารับฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามมีเจตนาทุจริตจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑
                ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดนั้นเมื่อระยะเวลาตามโครงการสิ้นสุดลงแล้วจำเลยทั้งสามไปลงลายมือชื่อขอรับเงินทั้งที่ยังไม่ได้ดำเนินการตามโครงการจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โรงเรียนแก่รัฐอันเป็นความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าว
 ---------
                คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสามผิดขั้นตอน ไม่ได้มีเจตนาทุจริต ทั้งไม่เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
                ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ เห็นว่า เมื่อจำเลยทั้งสามรับเงินมาแล้ว ไม่ได้นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ แต่กลับนำเงินไปเข้าบัญชีที่ไม่ใช่บัญชีของโรงเรียน ซึ่งมีวัตถุประสงค์การใช้ในเรื่องของสวัสดิการมีลักษณะเป็นเรื่องส่วนตัวมิได้เกี่ยวกับงานราชการ พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามถือได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น แม้ภายหลังจะได้ความว่ามีการนำเงินที่เบิกมาไปคืน เนื่องจากมีการตรวจสอบการกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการปฏิบัติที่ผิดระเบียบและผิดต่อกฎหมาย จึงเป็นความผิดตามฟ้อง
                ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ให้รอกำหนดโทษไว้เป็นเวลา ๓ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ (ที่แก้ไขใหม่) ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
               
เพิ่มเติม
                คำว่า โดยมิชอบ" หมายถึงโดยมิชอบด้วยหน้าที่ซึ่งเจ้าพนักงานมีอยู่ตามกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ คำสั่งของคณะรัฐมนตรี คำสั่งของผู้บังคับบัญชา หรือ ระเบียบแบบแผนของทางราชการ ซึ่งออกได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

อ้างอิง
                หยุดแสงอุทัย. กฎหมายอาญา ภาค ๒ ๓ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑๐. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๘.

ประมวลกฎหมายอาญา
                มาตรา ๑๕๑ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
                มาตรา ๑๕๗ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ