คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๓๙/๒๕๕๙

               การที่ ป.วิ.พ. มาตรา ๒๕๓ บัญญัติให้สิทธิแก่จำเลยที่จะร้องขอให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย ก็เพื่อคุ้มครองจำเลยให้มีหลักประกันที่จะบังคับเอาได้ในที่สุดหากโจทก์เป็นฝ่ายแพ้คดี เมื่อคดีนี้โจทก์เป็นคนเชื้อชาติและสัญชาติอังกฤษ มีภูมิลำเนาอยู่ที่สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์เหนือหรือประเทศอังกฤษ และไม่ปรากฏว่าโจทก์มีทรัพย์สินที่อาจถูกบังคับคดีได้ในราชอาณาจักร การที่โจทก์อยู่ในราชอาณาจักรโดยมีเพียงเช่าบ้านอยู่และใบอนุญาตทำงานเป็นการชั่วคราวซึ่งในที่สุดหากเป็นฝ่ายโจทก์แพ้คดีแล้วโจทก์เดินทางออกนอกราชอาณาจักร จำเลยทั้งเก้าก็ไม่มีทางที่จะบังคับเอาค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายจากโจทก์ได้เลย บ้านเช่าและการมีใบอนุญาตทำงานชั่วคราวของโจทก์ซึ่งมิใช่คนสัญชาติและเชื้อชาติไทย ไม่อาจถือได้ว่าเป็นภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงาน ตามความมุ่งหมายของมาตรา ๒๕๓ ที่ศาลล่างทั้งสองให้โจทก์วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายจำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท นั้น เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องซึ่งสูงถึง ๑,๓๖๔,๘๓๙,๐๑๕ บาท จึงชอบและเหมาะสมแล้ว

 

เพิ่มเติม

               คำสั่งให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๕๓ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๒๘ (๒) ย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้โดยไม่จำต้องโต้แย้งคำสั่งไว้ก่อน

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

               มาตรา ๒๕๓ ถ้าโจทก์มิได้มีภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานอยู่ในราชอาณาจักรและไม่มีทรัพย์สินที่อาจถูกบังคับคดีได้อยู่ในราชอาณาจักร หรือถ้าเป็นที่เชื่อได้ว่าเมื่อโจทก์แพ้คดีแล้วจะหลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าฤชา ธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย จำเลยอาจยื่นคำร้องต่อศาลไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อนพิพากษาขอให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์ วางเงินต่อศาลหรือหาประกันมาให้เพื่อการชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้

ถ้าศาลไต่สวนแล้วเห็นว่า มีเหตุอันสมควรหรือมีเหตุเป็นที่เชื่อได้ แล้วแต่กรณี ก็ให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์ วางเงินต่อศาลหรือหาประกันมาให้ตามจำนวนและภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ตามที่เห็นสมควรก็ได้

ถ้าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลตามวรรคสอง ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เว้นแต่ จำเลยจะขอให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป หรือมีการอุทธรณ์คำสั่งศาลตามวรรคสอง