คำพิพากษาฎีกาที่ ๘๘๑๖/๒๕๖๓ 

                    ทองคำที่จำเลยรับซื้อไว้จาก ว. เป็นของโจทก์ จำเลยจึงไม่ ได้กรรมสิทธิ์ในทองคำเพราะผู้ขายไม่มีกรรมสิทธิ์ในทองคำนั้นตามหลักที่ว่าผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงมีสิทธิติดตามเอาทองคำนั้นคืนจากผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๖

                    แม้ห้างขายทองของจำเลยจะอยู่ในชุมชนการค้า แต่จำเลยรับซื้อทองคำจาก ว. ที่นำมาขายให้ที่ห้างขายทองคำของจำเลย โดยมิได้ซื้อจากร้านค้าใดร้านค้าหนึ่งในชุมชนการค้านั้น แม้จำเลยซื้อไว้ โดยสุจริตและไม่เป็นความผิดฐานรับของโจรก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยซื้อทองคำในท้องตลาดอันจะได้รับความคุ้มครองด้วยการยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๓๒ จำเลยต้องคืนทองคำแก่โจทก์

 

เพิ่มเติม

                    ฎีกาที่ ๑๒๑๖๒/๒๕๕๓ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์คันพิพาทมิได้มอบอำนาจให้จำเลยที่ ๑ ไปจดทะเบียนโอนรถยนต์คันพิพาท จำเลยที่ ๑ ใช้หนังสือมอบอำนาจบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของโจทก์ที่จำเลยที่ ๑ ปลอมลายมือชื่อโจทก์ไปจดทะเบียนโอนรถยนต์คันพิพาทให้แก่จำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันพิพาทตามหลักกฎหมายที่ว่า ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน ทั้งการที่ บ. และจำเลยที่ ๑ นำรถยนต์คันพิพาทของโจทก์มาจัดไฟแนนซ์กับบริษัท ด. ซึ่งเป็นบริษัทของจำเลยที่ ๒ ไม่ใช่การซื้อขายในท้องตลาดหรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๓๒ ดังนั้น จำเลยที่ ๒ จะสุจริตหรือไม่ ก็ไม่เป็นเหตุให้ได้รับการคุ้มครองตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าว

 

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

                    มาตรา ๑๓๓๒  บุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินมาโดยสุจริตในการขายทอดตลาด หรือในท้องตลาด หรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่จำต้องคืนให้แก่เจ้าของแท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา