คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๗๕๖/๒๕๖๔ 

               จำเลยขับรถจักรยานยนต์ตามผู้ตายไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ มีสาเหตุมาจากที่ผู้ตายกับจำเลยเคยมีสาเหตุไม่พอใจกันมาก่อน จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าการตามไปเช่นนี้ต้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทอย่างใดอย่างหนึ่งกับผู้ตายแน่นอน เมื่อจำเลยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย แสดงว่าจำเลยต้องการมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้ตายไม่ใช่เพียงต้องการไปถามเรื่องที่ผู้ตายตะโกนใส่จำเลย การกระทำของจำเลยเป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาทกับผู้ตาย แม้จำเลยอ้างว่าผู้ตายใช้มีดแรมโบ้ จะฟันทำร้ายจำเลยก่อน ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการ ประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๖๘ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงไปที่ผู้ตาย จึงหาอาจอ้างเหตุว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวเองได้ไม่ เมื่อจำเลยยิ่งไปที่ผู้ตายถึง ๓ นัด กระสุนปืนถูกผู้ตายบริเวณศีรษะ แขนซ้าย หน้าอก และลำตัว อันเป็นการเลือกยิงไปที่อวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามฟ้อง

 

เพิ่มเติม

               ฎีกาที่ ๙๓๕/๒๕๕๔ การที่จำเลยพกมีดปลายแหลมไปตามหาผู้เสียหายที่บ้าน เพราะโกรธผู้เสียหายที่ไปทำร้าย ส. บุตรเขยจำเลย เมื่อผู้เสียหายได้ยินจึงเดินออกจากบ้าน แล้วต่างฝ่ายต่างเดินเข้าหากัน ผู้เสียหายชกต่อยจำเลยไป ๑ ครั้ง ขณะเดียวกันจำเลยก็ใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายหลายครั้ง ตามพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยสมัครใจวิวาทกับผู้เสียหาย จะอ้างเหตุว่าจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตัวไม่ได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

 

ประมวลกฎหมายอาญา

               มาตรา ๖๘  ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด