คำพิพากษาศาลฎีกาที่
4676/2560
จำเลยซื้อที่ดินมือเปล่าจากมารดาโจทก์แล้วเข้าครอบครองอยู่อาศัย
จึงเป็นการครอบครองอย่างเป็นเจ้าของ ต่อมามารดาโจทก์ขอออกโฉนดที่ดินรวมไปถึงที่ดินที่จำเลยซื้อ
เมื่อจำเลยยังคงครอบครองที่ดินที่ซื้อโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมา
ระยะเวลาแห่งการครอบครองปรปักษ์ที่ดินจึงเริ่มนับตั้งแต่วันที่ออกโฉนดที่ดินเป็นต้นไป
และจำเลยไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ยึดถือแทนจึงไม่ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการครอบครองไปยังผู้ขาย
เมื่อนับถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์
การวินิจฉัยของศาลฎีกา:
การเชื่อมโยงข้อเท็จจริงกับหลักกฎหมาย
จะเริ่มนับระยะเวลาครอบครองปรปักษ์ 10 ปี ตั้งแต่เมื่อใด
1. ช่วงก่อนออกโฉนด (พ.ศ. 2536 - 2541)
·
ข้อเท็จจริง: จำเลยซื้อที่ดินและเข้าครอบครองตั้งแต่ปี 2536 ในขณะที่ที่ดินยังเป็น "ที่ดินมือเปล่า" (ยังไม่มีโฉนด)
·
การปรับใช้กฎหมาย: การครอบครองที่ดินมือเปล่าของจำเลย เป็นการ ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของ
ตามสิทธิที่ซื้อมาจริง แต่สถานะของที่ดินในตอนนั้นยังไม่ใช่ทรัพย์สิน
"ของผู้อื่น" ที่มีกรรมสิทธิ์ตามโฉนด ดังนั้น การครอบครองในช่วงนี้ ยังไม่สามารถนับเป็นระยะเวลาครอบครองปรปักษ์
ตามมาตรา 1382 ได้ เพราะยังไม่มี
"กรรมสิทธิ์" ของผู้อื่นให้ไปครอบครองปรปักษ์ จำเลยมีเพียง
"สิทธิครอบครอง" เท่านั้น
2. ช่วงหลังออกโฉนด (เริ่มนับ 21 สิงหาคม
2541 เป็นต้นไป)
·
ข้อเท็จจริง: มีการออกโฉนดที่ดิน (โฉนดเลขที่ 33842) ในวันที่ 21 สิงหาคม 2541 โดยโฉนดได้รวมเอาที่ดินพิพาทส่วนของจำเลยเข้าไปด้วย
·
การปรับใช้กฎหมาย: เมื่อมีการออกโฉนด ที่ดินแปลงนั้นจึงมี "กรรมสิทธิ์"
ตามกฎหมายซึ่งในขณะนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของมารดาโจทก์ การครอบครองของจำเลยหลังจากวันออกโฉนดเป็นต้นไป
จึงเข้าองค์ประกอบข้อแรก คือเป็นการ “ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่น” ศาลฎีกาจึงวินิจฉัยว่า
ระยะเวลาครอบครองปรปักษ์ ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ออกโฉนด คือ 21 สิงหาคม 2541 เป็นต้นไป
3. การครอบครองต่อเนื่องจนครบ 10 ปี
·
ข้อเท็จจริง: จำเลยยังคงครอบครองที่ดินพิพาทอย่างสงบ เปิดเผย
และด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเรื่อยมา ไม่ได้ย้ายออกไปไหน
·
การปรับใช้กฎหมาย: เมื่อเริ่มนับจากวันที่ 21 สิงหาคม 2541 มาจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องคดี คือวันที่ 25
เมษายน 2557 ระยะเวลาที่จำเลยครอบครองที่ดินปรปักษ์
เกินกว่า 10 ปี แล้ว ดังนั้น
การครอบครองของจำเลยจึงครบองค์ประกอบตามมาตรา 1382 ทุกประการ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
บัญญัติว่า “บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบ
และโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ
ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี...
ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์”

0 Comments
แสดงความคิดเห็น