คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๙๗๘/๒๕๖๒ 

               จำเลยที่ ๓ ร่วมกันวางแผนสมคบกันกับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๔ กับพวกเพื่อที่จะกระทำความผิด โดยจำเลยที่ ๓ มีส่วนรู้เห็นมาตั้งแต่ต้น แต่ขณะที่จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๔ กับพวกร่วมกันกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยที่ ๓ จอดรถรอเพื่อคอยดูเส้นทางให้จำเลยที่ ๔ กับพวก มิได้ร่วมขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับไปก่อเหตุกับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๔ กับพวก บริเวณที่จำเลยที่ ๓ จอดรถคอยดูเส้นทางให้มิได้อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุในลักษณะที่จำเลยที่ ๓ พร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๔ กับพวก ในขณะกระทำความผิดได้ในทันที จึงไม่ใช่เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำอันจะเป็นตัวการในการกระทำความผิดร่วมกับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๔ กับพวก การกระทำของจำเลยที่ ๓ เป็นเพียงการช่วยเหลืออำนวยความ สะดวกให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๔ กับพวกกระทำความผิด จำเลยที่ ๓ มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อนและฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

เพิ่มเติม
               ฎีกาที่ ๕๔๓๓/๒๕๓๘ คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแล้ววิ่งไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยจอดรออยู่หลบหนีไปด้วยกัน โจทก์ไม่มีพยานนำสืบให้เห็นว่า จำเลยได้ร่วมสมคบกับคนร้ายวางแผนและตระเตรียมมาฆ่าผู้ตาย จุดที่จำเลยจอดรถจักรยานยนต์อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ ๒๐๐ เมตร ไม่สามารถมองเห็นที่เกิดเหตุ เป็นไปไม่ได้ที่จำเลยจะคอยดูต้นทางให้คนร้าย ทั้งข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ร่วมกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดอันพึงถือได้ว่าเป็นการแบ่งหน้าที่กัน จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำผิด การกระทำของจำเลยเป็นเพียงการช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่คนร้ายหลบหนีเพื่อให้พ้นจากการจับกุมเท่านั้น จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่น

ประมวลกฎหมายอาญา
               มาตรา ๘๓ ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
               มาตรา ๘๖ ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น