คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๕๗๗/๒๕๖๑ 
               ข้อตกลงตามตารางกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันของจำเลยที่ ๒ ที่ทำไว้กับจำเลยร่วมผู้รับประกันภัยต่อโจทก์ เป็นการกำหนดเอาความรับผิดของจำเลยที่ ๒ ผู้ค้ำประกันหรือผู้เอาประกันภัยในหนี้ซึ่งจำเลยที่ ๒ ต้องรับผิดชำระแก่โจทก์ผู้ให้กู้ตามสัญญาค้ำประกัน เป็นเงื่อนไขในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยหากจำเลยที่ ๒ ต้องรับผิดตามสัญญาประกันแล้วจำเลยร่วมจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ในนามจำเลยที่ ๒ เงื่อนไขความรับผิดตามสัญญามีลักษณะเป็นนิติกรรมสัญญามิใช่นิติเหตุ สัญญาประกันภัยพิพาทเป็นกรณีจำเลยร่วมตกลงจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในเหตุอย่างอื่นในอนาคตมิใช่กรณีเมื่อเกิดวินาศภัยขึ้นจึงไม่เป็นสัญญาประกันวินาศภัย
               สัญญาประกันภัยในเหตุอย่างอื่นในอนาคตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๖๑ นั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงมีอายุความ ๑๐ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๓๐ นับแต่เวลาจำเลยที่ ๒ ในฐานะผู้เอาประกันอาจใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาประกันภัยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๑๒ จะนำบทบัญญัติเกี่ยวกับอายุความในการเรียกให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีการประกันวินาศภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๘๒ วรรคหนึ่ง มาใช้บังคับมิได้
               ข้อตกลงตามตารางกรมธรรม์ประกันภัยระบุว่า บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยให้กับผู้ให้กู้สำหรับจำนวนเงินกู้ที่ค้างชำระ ๓ งวดติดต่อกันตามสัญญาค้ำประกันที่ตกลงกันไว้ สิทธิเรียกร้องของโจทก์หรือจำเลยที่ ๒ ในอันจะเรียกให้จำเลยร่วมปฏิบัติตามสัญญาประกันภัยย่อมมีขึ้นตั้งแต่วันถัดจากวันที่จำเลยที่ ๑ ผิดนัดชำระหนี้แก่โจทก์ครบ ๓ งวดติดต่อกัน คือวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๓ เป็นต้นไป จำเลยร่วมถูกหมายเรียกเข้ามาในคดีซึ่งเปรียบเสมือนว่าจำเลยร่วมถูกฟ้อง เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๖ ยังอยู่ในระยะเวลา ๑๐ปีคดีในส่วนของจำเลยร่วมยังไม่ขาดอายุความ

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
               มาตรา ๘๖๑ อันว่าสัญญาประกันภัยนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งตกลงจะใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ในกรณีวินาศภัยหากมีขึ้น หรือในเหตุอย่างอื่นในอนาคตดังได้ระบุไว้ในสัญญา และในการนี้บุคคลอีกคนหนึ่งตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่า เบี้ยประกันภัย
               มาตรา ๘๖๙ อันคำว่าวินาศภัยในหมวดนี้ ท่านหมายรวมเอาความเสียหายอย่างใด ๆ บรรดาซึ่งจะพึงประมาณเป็นเงินได้
               มาตรา ๘๘๒ ในการเรียกให้ใช้ค่าสินไหมทดแทน ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดเวลาสองปีนับแต่วันวินาศภัย
               ในการเรียกให้ใช้หรือให้คืนเบี้ยประกันภัย ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาสองปีนับแต่วันซึ่งสิทธิจะเรียกให้ใช้หรือคืนเบี้ยประกันภัยถึงกำหนด