คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๖๙๑/๒๕๖๑ 

               จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรป่าพะยอมในตอนแรก กับการเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีอาญาต่อศาลจังหวัดพัทลุง ซึ่งอยู่ในท้องที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทลุงไม่ตรงกัน ถือว่าเป็นกรณียังไม่แน่ว่าการกระทำของจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จได้กระทำลงในท้องที่ใด พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรป่าพะยอมจึงมีอำนาจสอบสวน พนักงานอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้อง

 

เพิ่มเติม

               ฎีกาที่ ๑๖๕๕/๒๕๓๐ จำเลยเป็นลูกจ้างของโจทก์ร่วม มีหน้าที่เก็บเงินจากลูกหนี้ของโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ต่างจังหวัด แล้วส่งมอบให้โจทก์ร่วมซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลบางรัก จำเลยรับเงินจากลูกหนี้ของโจทก์ร่วมในอีกท้องที่หนึ่งแล้วไม่ส่งมอบให้โจทก์ร่วม จึงเป็นการไม่แน่ว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ของโจทก์ร่วมในท้องที่ใด พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางรักจึงมีอำนาจสอบสวน

               ฎีกาที่ ๒๓/๒๕๑๓ เหตุเกิดในทะเล ไม่ทราบชัดว่าอยู่ในเขตจังหวัดใดแน่ ระหว่างในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชลบุรี จังหวัดสมุทรปราการหรือท้องทะเลหลวง เมื่อผู้เสียหายแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนอำเภอเมืองสมุทรปราการ พนักงานสอบสวนอำเภอนั้นมีอำนาจสอบสวนได้และศาลจังหวัดสมุทรปราการก็มีอำนาจพิพากษาคดีนั้นได้

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

               มาตรา ๑๙ ในกรณีดังต่อไปนี้

               (๑) เป็นการไม่แน่ว่าการกระทำผิดอาญาได้กระทำในท้องที่ใดในระหว่างหลายท้องที่