คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๗๗๔/๒๕๖๒ 

               รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีมีข้อความว่า พ. ซึ่งเป็นภริยาจำเลยตกลงมอบเงินให้ บ. ซึ่งเป็นภริยาผู้ตาย จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ภริยาผู้ตายได้รับเงินแล้วรับว่ามีความพอใจจะไม่ติดใจฟ้องร้องเอาความกับผู้ใดอีกทั้งคดีแพ่งและคดีอาญามีลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ แม้ บ. ภริยาผู้ตายเป็นมารดาโดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์ร่วมทั้งสองซึ่งสามารถทำนิติกรรมแทนโจทก์ร่วมทั้งสองซึ่งเป็นผู้เยาว์ได้ก็ตาม แต่การที่มารดาของโจทก์ร่วมทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับ พ. ภริยาจำเลยที่สถานีตำรวจตามรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีอันจะทำให้สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันโจทก์ร่วมทั้งสองได้นั้น บ. จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลเสียก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๗๔ (๑๒) เมื่อ บ. ในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์ร่วมทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล สัญญาประนีประนอมยอมความไม่มีผลผูกพันโจทก์ร่วมทั้งสอง โจทก์ร่วมทั้งสองมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยซึ่งทำละเมิดให้บิดาถึงแก่ความตายได้

 

เพิ่มเติม

               ฎีกาที่ ๕๓๓/๒๕๕๒ เมื่อมีผู้กระทำละเมิดต่อผู้เยาว์อันมีผลให้ผู้เยาว์มีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนนั้น เป็นการที่ผู้เยาว์จะได้มาซึ่งทรัพย์สินอย่างหนึ่ง หากมีการประนีประนอมยอมความกัน ซึ่งผู้ใช้อำนาจปกครองจะต้องทำสัญญาแทนผู้เยาว์ ผู้ใช้อำนาจปกครองในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมก็ชอบที่จะต้องขออนุญาตศาลเสียก่อน เพราะเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์ตามที่บังคับไว้ใน ป.พ.พ.มาตรา ๑๕๗๔ (๑๒)

 

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

               มาตรา ๑๕๗๔ นิติกรรมใดอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์ดังต่อไปนี้ ผู้ใช้อำนาจปกครองจะกระทำมิได้ เว้นแต่ศาลจะอนุญาต

               (๑๒) ประนีประนอมยอมความ