คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๔๒๙/๒๕๖๒ 

               ศาลมีคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของ พ. แล้วจำเลยจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกและโอนที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยในฐานะส่วนตัวในวันเดียวกัน ดังนี้ ไม่อาจถือได้ว่าจำเลยในฐานะส่วนตัวได้เปลี่ยนเจตนาครอบครองที่ดินพิพาทจากการครอบครองแทนทายาทมาเป็นการครอบครองในฐานะส่วนตัว แต่เพียงผู้เดียว เพราะจำเลยยังมิได้บอกกล่าวไปยังทายาทว่าไม่มีเจตนายึดถือทรัพย์มรดกแทนทายาทอีกต่อไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๑ เป็นเพียงการครอบครองที่ดินพิพาทแทนทายาทอื่นของ พ.

 

เพิ่มเติม

               การบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือแทนเป็นยึดถือเพื่อตน กรณีเจ้าของกรรมสิทธิ์รวม ไม่จำต้องบอกกล่าวไปยังเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมให้ครบทุกคน เพียงบอกกล่าวไปยังโจทก์ผู้เป็นเจ้าของรวมเพียงผู้เดียว ก็ถือเป็นการบอกกล่าวที่ชอบตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๓๘๑ แล้ว (ฎีกาที่ ๓๘๖๙/๒๕๕๔)

              

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

               มาตรา ๑๓๘๑ บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครอง บุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ ก็แต่โดยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบครองว่าไม่เจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ครอบ ครองต่อไป หรือตนเองเป็นผู้ครอบครองโดยสุจริต อาศัยอำนาจใหม่อันได้จากบุคคลภายนอก