คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๙๖/๒๕๖๓ 

               จำเลยที่ ๑ ลูกหนี้ชั้นต้นผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่งวดที่ ๓๕ และผิดนัดเรื่อยมาเป็นเวลาเกินกว่าสามงวดติดต่อกัน ภายหลังจากนั้นเป็นเวลาล่วงพ้นกว่าหกสิบวันนับแต่วันที่จำเลยที่ ๑ ผิดนัด โจทก์เพิ่งมีหนังสือบอกกล่าวแก่จำเลยที่ ๒ ผู้ค้ำประกันส่งไปยังจำเลย ที่ ๒ ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ และจำเลยที่ ๒ ได้รับหนังสือไว้แล้ว ผลแห่งการบอกกล่าวของโจทก์ที่ล่วงพ้นกำหนดเวลาหกสิบวัน นับแต่วันที่จำเลยที่ ๑ ผิดนัด ย่อมทำให้จำเลยที่ ๒ ผู้ค้ำประกัน หลุดพ้นจากความรับผิดในดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทน ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้นบรรดาที่เกิดขึ้นภายหลังจากพ้นกำหนดเวลาหกสิบวันนับแต่วันที่จำเลยที่ ๑ ผิดนัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๘๖ วรรคสอง แต่หนี้ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนหรือใช้ราคาแทนที่โจทก์ฎีกาให้จำเลยที่ ๒ ต้องร่วมรับผิดด้วยนั้น วัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทำการส่งมอบตัวทรัพย์หรือใช้ราคาทรัพย์แทน ซึ่งมิใช่ดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทนทั้งหาใช่ค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้ตามความมาตรา ๖๘๖ วรรคสอง ที่จำเลยที่ ๒ จะหลุดพ้นจากความรับผิดไปเพราะโจทก์มิได้บอกกล่าวจำเลยที่ ๒ ภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งไม่ จำเลยที่ ๒ยังมีหน้าที่ ต้องร่วมกับจำเลยที่ ๑ ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนหรือใช้ราคาแทน ให้แก่โจทก์ด้วย

 

               ตามฎีกานี้ โจทก์มีหนังสือทวงถามขอให้ชำระหนี้และบอกเลิกสัญญาฉบับลงวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ ส่งไปยังจำเลยที่ ๑ และมีหนังสือทวงถามขอให้ชำระหนี้และบอกเลิกสัญญาฉบับลงวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๙ ไปยังจำเลยที่ ๒ ทางไปรษณีย์ตอบรับ

 

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

               มาตรา ๖๘๖ เมื่อลูกหนี้ผิดนัด ให้เจ้าหนี้มีหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกันภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด และไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดเจ้าหนี้จะเรียก ให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ก่อนที่หนังสือบอกกล่าวจะไปถึงผู้ค้ำประกันมิได้ แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ค้ำประกันที่จะชำระหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระ

               ในกรณีที่เจ้าหนี้มิได้มีหนังสือบอกกล่าวภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดในดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทน ตลอดจนค่าภาระ ติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้นบรรดาที่เกิดขึ้นภายหลังจากพ้นกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง