คำพิพากษาฎีกาที่ ๘๘๖/๒๕๖๖ 

               แม้การบังคับคดีตามคําพิพากษาจะต้องบังคับเอาแก่ทรัพย์จํานองก่อน หากไม่ครบจำนวนหนี้จึงจะบังคับเอาแก่ทรัพย์สินอื่นก็ตาม แต่ระยะเวลาของการบังคับคดีใกล้สิ้นสุดลง โดยจําเลยผิดนัดไม่ชําระหนี้ตามคําพิพากษาตามยอมตั้งแต่งวดแรกวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ จนถึงวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ หากผู้ร้องไม่ร้องขอให้อายัดเงินเดือนไว้ก่อนก็จะเกิน ๑๐ ปี นับแต่วันที่หนี้ตามคําพิพากษาอาจบังคับชําระได้ เป็นเหตุให้ผู้ร้องอาจเสียสิทธิในการบังคับคดี ทั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างทรัพย์จํานองเป็นเงิน ๗๔๔,๑๐๘ บาท และในวันที่โจทก์ยื่นคําร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงิน เดือนหรือค่าจ้างและเงินอื่นใดของจําเลยไว้ก่อนนั้นจําเลยเป็นหนี้โจทก์ ตามคําพิพากษาตามยอมจำนวน ๙๑๗,๕๐๕.๑๒ บาท ไม่พอชําระหนี้ตามคําพิพากษาตามยอม ประกอบกับทรัพย์จํานองถูกเจ้าหนี้ตามคําพิพากษาในคดีอื่นบังคับคดียึดไว้ก่อนแล้ว การบังคับคดีที่ล่าช้ามิใช่เกิดจากความผิดของโจทก์หรือผู้ร้อง การอายัดเงินดือนของจําเลยไว้ก่อนแต่ยังไม่ชําระให้แก่ผู้ร้องจนกว่าจะมีการขายทอดตลาดทรัพย์จํานองเสร็จสิ้นและได้เงินไม่พอชําระหนี้จึงค่อยนําเงินที่อายัดไว้ชําระหนี้ให้แก่ผู้ร้องก็ไม่ขัดต่อขั้นตอนการบังคับคดีตามคําพิพากษาตามยอมและก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

 

เพิ่มเติม

               ฎีกาที่ ๓๑๖๗/๒๕๖๔ เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาที่ดินทรัพย์ จํานองเป็นเงิน ๑,๕๖๐,๐๐๐ บาท และในวันที่ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้ยึดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินอื่นของจําเลยที่ ๒ เพิ่มเติม จําเลยทั้งสองเป็นหนี้ผู้ร้องตามคําพิพากษาจำนวน ๓,๓๔๖,๑๐๒.๓๙ บาท หากขายทอดตลาดที่ดินทรัพย์จํานองไปตามราคาดังกล่าวก็ยังคงเหลือหนี้ตามคําพิพากษาอีกมากเพียงพอสมควรแก่การให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจําเลยที่ ๒ เพิ่มเติม ประกอบกับที่ดินทรัพย์จํานองที่ผู้ร้องนํายึดมีราคาประเมินไม่เพียงพอที่จะชําระหนี้แก่ผู้ร้องตามคําพิพากษา หากต้องรอให้มีการขายทอดตลาดที่ดินทรัพย์จํานองเสร็จสิ้นก่อน ย่อมพ้นกำหนดระยะเวลาบังคับคดีเป็นเหตุให้ผู้ร้องอาจเสียสิทธิในการบังคับคดี ทั้ง ๆ ที่การขายทอดตลาดที่ดินทรัพย์จํานองยังไม่เสร็จสิ้น มิใช่เกิดจากความผิดของผู้ร้อง การยึดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินอื่นของจําเลยที่ ๒ ไว้ก่อนแต่ยังไม่ต้องนําออกขายจนกว่าจะมีการขายทอดตลาดที่ดินทรัพย์จํานองเสร็จสิ้นและได้เงินไม่พอชําระหนี้จึงค่อยนําออกขายทอดตลาดก็ไม่ขัดต่อขั้นตอนการบังคับคดีตามคําพิพากษาศาลชั้นต้นและก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ผู้ร้องมีสิทธิยึดที่ดินของจําเลยที่ ๒ เพิ่มเติมได้

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

               มาตรา ๒๗๔ ถ้าคู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายแพ้คดีหรือบุคคลที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ชำระหนี้ (ลูกหนี้ตามคำพิพากษา) มิได้ปฏิบัติตามคำบังคับที่ออกตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลทั้งหมดหรือบางส่วน คู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายชนะคดีหรือบุคคลที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ได้รับชำระหนี้ (เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) ชอบที่จะร้องขอให้มีการบังคับคดีโดยวิธียึดทรัพย์สิน อายัดสิทธิเรียกร้อง หรือบังคับคดีโดยวิธีอื่นตามบทบัญญัติแห่งภาคนี้ภายในสิบปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่ง และถ้าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องใดไว้หรือได้ดำเนินการบังคับคดีโดยวิธีอื่นไว้บางส่วนแล้วภายในระยะเวลาดังกล่าว ก็ให้ดำเนินการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้อง หรือบังคับคดีโดยวิธีอื่นนั้นต่อไปจนแล้วเสร็จได้

               ถ้าคำพิพากษาหรือคำสั่งกำหนดให้ชำระหนี้เป็นงวด เป็นรายเดือน หรือเป็นรายปี หรือกำหนดให้ชำระหนี้อย่างใดในอนาคต ให้นับระยะเวลาสิบปีตามวรรคหนึ่งตั้งแต่วันที่หนี้ตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นอาจบังคับให้ชำระได้

               ถ้าสิทธิเรียกร้องตามคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นการให้ชำระเงิน ส่งคืนหรือส่งมอบทรัพย์เฉพาะสิ่ง บุคคลซึ่งได้รับโอนหรือรับช่วงสิทธิตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นมีอำนาจบังคับคดีตามความในหมวด ๒ การบังคับคดีในกรณีที่เป็นหนี้เงิน หรือหมวด ๓ การบังคับคดีในกรณีที่ให้ส่งคืนหรือส่งมอบทรัพย์เฉพาะสิ่ง แล้วแต่กรณี โดยการร้องขอต่อศาลเพื่อเข้าสวมสิทธิเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป