คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๐๑๔/๒๕๖๔ ตอนที่ ๑๐ หน้า ๒๕๘๘

               ตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๓ บัญญัติเรื่องการโอนใบอนุญาตจัดสรรที่ดินไว้ในมาตรา ๓๘ แม้มาตรา ๓๙ บัญญัติผลแห่งการโอนใบอนุญาตว่าเมื่อได้โอนใบอนุญาตให้แก่ผู้รับโอนแล้ว ให้บรรดาสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้ซื้อที่ดินจัดสรรตกไปยังผู้รับโอนก็ตามแต่เจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติดังกล่าวเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้ซื้อที่ดินจัดสรรโดยเฉพาะการได้สิทธิในที่ดินจัดสรรและการกำหนดให้มีผู้รับผิดชอบบำรุงรักษาสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะ ส่วนบ้านเรือนที่ปลูกสร้างในที่ดินที่จัดสรรย่อมเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ซื้อที่ดินจัดสรร ซึ่งยังคงมีนิติสัมพันธ์ตามสัญญาซื้อขายกับผู้ขาย หาได้โอนไปตามมาตรา ๑ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวซึ่งโอนไปเฉพาะสิทธิและหน้าที่ในฐานะผู้ได้รับอนุญาตให้จัดสรรที่ดิน แต่ไม่หมายรวมถึงสิทธิ หน้าที่และ ความรับผิดชอบของจำเลยที่ ๑ ที่มีอยู่ตามข้อสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ภายในบังคับของประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต่างหากจากพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดินฯ ดังนั้นบรรดาสิทธิ หน้าที่และความรับผิดที่จำเลยที่ ๑ มีต่อโจทก์ตาม สัญญาจะซื้อจะขายฉบับดังกล่าวจึงยังคงมีอยู่ทุกประการ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ ๑  เมื่ออาคารพาณิชย์ที่จำเลยที่ ๑ ขายให้แก่โจทก์มีความชำรุดบกพร่อง จำเลยที่ ๑ จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ 

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

               มาตรา ๕๕  เมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น เกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตามกฎหมายแพ่ง หรือบุคคลใดจะต้องใช้สิทธิทางศาล บุคคลนั้นชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลส่วนแพ่งที่มีเขตอำนาจได้ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายแพ่งและประมวลกฎหมายนี้