คำพิพากษาศาลฎีกาที่
4383/2531
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง:
พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518
มาตรา 22, มาตรา 34
เมื่อกรณีเป็นข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้
นายจ้างได้แจ้งการปิดงานให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานและลูกจ้างทราบล่วงหน้าตามกฎหมายแล้ว
แม้นายจ้างไม่ยอมให้ลูกจ้างเข้าทำงานในช่วงเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงที่ประกาศแจ้งล่วงหน้า
แต่ก็ได้จ่ายค่าจ้างในช่วงเวลาดังกล่าวให้แก่ลูกจ้าง
ถือได้ว่าคงมีการทำงานอยู่จนถึงกำหนดวันเวลาที่แจ้งให้การปิดงานมีผล
มิใช่เป็นการปิดงานนับแต่วันเวลาที่แจ้ง จึงเป็นการปิดงานโดยชอบด้วยกฎหมาย
ลูกจ้างไม่มีสิทธิเรียกค่าจ้างในระหว่างที่มีการปิดงาน
สรุป;
เจตนารมณ์มาตรา 34 ในการห้ามปิดงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า
24 ชั่วโมง
มุ่งคุ้มครองเพียงมิให้ลูกจ้างขาดรายได้ในการครองชีพกะทันหัน
การที่นายจ้างให้หยุดงานทันทีหลังแจ้งแต่ยัง "จ่ายค่าจ้าง"
ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ของกฎหมายแล้ว สถานะทางกฎหมายช่วงแจ้งล่วงหน้า
คือ แม้ลูกจ้างไม่ได้ทำงานจริง แต่การได้รับค่าจ้างในช่วง 24 ชั่วโมงนับแต่เวลาแจ้ง
ถือว่านิติกรรมการจ้างแรงงานยังดำเนินอยู่เสมือนมีการทำงานจนครบกำหนดเวลาแจ้งล่วงหน้า
จึงมิใช่การฝ่าฝืนขั้นตอนการปิดงานตามกฎหมาย ผลแห่งการปิดงานที่ชอบ เมื่อพ้นกำหนด 24
ชั่วโมงและนายจ้างเริ่มงดจ่ายค่าจ้าง
ถือเป็นการใช้สิทธิปิดงานโดยชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 22
และ 34 ลูกจ้างจึง ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าจ้าง
นับแต่เวลาที่การปิดงานมีผลเป็นต้นไป
