อย่าปล่อยให้ พ.ร.บ. ขาด! บทเรียนราคาแพงจากคดีรถชนปี 2568 ที่คนมีรถต้องอ่าน II คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2981/2568


หลายคนมักเข้าใจผิดว่า
"พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ" มีไว้แค่เพื่อให้ครบตามกฎหมายสำหรับต่อภาษีรถประจำปี แต่คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับใหม่ล่าสุด (ฎีกาที่ 2981/2568) นี้ จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดไปตลอดกาลครับ

คดีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ชั้นครูสำหรับผู้ใช้รถทุกคน เมื่อจำเลยขับรถขณะเมาสุราจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ศาลไม่เพียงพิพากษาลงโทษจำคุกเท่านั้น แต่ยังสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งแก่ครอบครัวผู้ตายเป็นจำนวนเงินนับล้านบาท ซึ่งรวมถึงค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ และ "ค่าขาดไร้อุปการะ"

แต่จุดที่น่าสนใจที่สุดในเชิงกฎหมายคือ "เงินความคุ้มครอง 500,000 บาท" จาก พ.ร.บ. ที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญ ศาลฎีกาได้วางบรรทัดฐานใหม่ในการนำเงินก้อนนี้มา "หักลบ" ออกจากยอดหนี้ที่จำเลยต้องชดใช้ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งตัวจำเลยในการบรรเทาภาระหนี้ และเป็นหลักประกันว่าผู้เสียหายจะได้รับการเยียวยาเบื้องต้นอย่างแน่นอน

ในบทความนี้ Dekasuksa จะพาไปวิเคราะห์เจาะลึกว่า ศาลคำนวณค่าเสียหายแต่ละส่วนอย่างไร? และทำไม พ.ร.บ. ถึงเป็น "เกราะป้องกัน" ที่ขาดไม่ได้สำหรับรถทุกคันครับ

 

แผนภาพสรุปสาระสำคัญ ฎีกาที่ 2981/2568: เงินความคุ้มครอง 500,000 บาท จาก พ.ร.บ. สามารถนำมาหักออกจากค่าขาดไร้อุปการะที่จำเลยต้องชดใช้ได้

1. บทเรียนราคาแพง: เมาแล้วขับ ชีวิตเปลี่ยนในพริบตา

เหตุการณ์ในคดีนี้เริ่มต้นจากความประมาท เมื่อจำเลยขับรถกระบะด้วยความเร็วสูงในขณะเมาสุรา จนรถเสียหลักพุ่งชนร้านค้าข้างทางอย่างรุนแรง ผลลัพธ์คือสามีเจ้าของร้านเสียชีวิตทันที ภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัสกระดูกข้อมือหัก และทรัพย์สินเสียหายยับเยิน

ในส่วนของ คดีอาญา ศาลตัดสินลงโทษจำคุก (ลดโทษเหลือ 3 ปี) และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ แต่สิ่งที่หนักหนาสาหัสไม่แพ้กันคือ คดีแพ่ง ที่ศาลสั่งให้จำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล

2. เปิดบิลค่าเสียหาย: ศาลคิดเงินจากอะไรบ้าง?

หลายคนอาจสงสัยว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต ศาลคิดค่าเสียหายอย่างไร? ในคดีนี้ศาลฎีกาได้แจกแจงรายการที่จำเลยต้องจ่ายไว้อย่างละเอียดและน่าสนใจมากครับ:

  • ค่าขาดไร้อุปการะ: เนื่องจากผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว ศาลประเมินจากรายได้และอายุขัยเฉลี่ย สั่งให้จ่ายภรรยาถึง 1,200,000 บาท
  • ค่าขาดแรงงานในครัวเรือน: ข้อนี้หลายคนอาจไม่ทราบว่าเรียกได้ เมื่อสามีเสียชีวิต ภรรยาต้องทำงานบ้านเองทั้งหมด ศาลตีราคาค่าแรงส่วนนี้ให้ 50,000 บาท
  • ค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน: เสื้อผ้าที่ขายเสียหายและสูญหาย 200,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลและค่าเดินทาง: รวมไปถึงค่าน้ำมันรถที่ต้องขับไปหาหมอตามนัด
  • ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ: ระหว่างที่รถของผู้เสียหายซ่อมและใช้งานไม่ได้

3. จุดเปลี่ยนคดี: เงิน 5 แสนจาก พ.ร.บ. ช่วยหักหนี้ได้!

ไฮไลต์สำคัญของฎีกานี้อยู่ที่การตีความเรื่อง "เงินค่าสินไหมทดแทนจาก พ.ร.บ." ครับ

ตามปกติ พ.ร.บ. รถยนต์ จะมีความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงสุด 500,000 บาท ในคดีนี้บริษัทประกันภัยได้จ่ายเงินจำนวนนี้ให้กับทายาทผู้ตายไปแล้ว แต่ประเด็นคือ เงินก้อนนี้จะถือว่าเป็นการชำระหนี้แทนจำเลยด้วยหรือไม่?

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า: "ค่าสินไหมทดแทนส่วนนี้ถือว่าเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการทำละเมิด... ซึ่งรวมถึงค่าขาดไร้อุปการะด้วย"

แปลเป็นภาษาชาวบ้านว่า: เงิน 500,000 บาท ที่ประกันจ่ายไป ไม่ใช่แค่ค่าทำศพเฉยๆ แต่มันคือเงินที่ "ช่วยจำเลยจ่ายหนี้" ด้วย ดังนั้น จำเลยสามารถนำยอดเงินที่ประกันจ่ายไปแล้ว มา "หักลบ" ออกจากค่าขาดไร้อุปการะ 1.2 ล้านบาทได้ ทำให้จำเลยเหลือยอดหนี้ที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเองลดลงไปเกือบครึ่งล้าน!

4. สรุป: พ.ร.บ. คือกระดาษที่คุ้มค่าที่สุด

จากคดีนี้ เราเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ถ้าจำเลยไม่มี พ.ร.บ.:

1.     ญาติผู้ตายอาจไม่ได้รับเงินเยียวยาก้อนแรก 500,000 บาททันที

2.     จำเลยจะต้องรับภาระหนี้เต็มจำนวนทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกฟ้องล้มละลายหรือยึดทรัพย์ได้

ค่าเบี้ย พ.ร.บ. เพียงหลักร้อยบาท (รถเก๋ง 600 บาท / กระบะ 900 บาท) แลกกับความคุ้มครองหลักแสนที่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้จริงเมื่อเกิดเหตุวิกฤต

คำแนะนำจาก Dekasuksa: วันนี้ลองเดินไปดูที่หน้ารถของคุณครับ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า "พ.ร.บ. ยังไม่หมดอายุ" เพราะอุบัติเหตุไม่เคยเลือกเวลา และความคุ้มครองนี้คือกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเราทุกคนครับ

 

อ้างอิง: คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2981/2568

​⚖️ มีปัญหากฎหมาย ปรึกษาทนายสินธร แอดไลน์: https://lin.ee/ZNE4ZCI

 

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า