การฎีกาว่าคดีขาดอายุความร้องทุกข์ตาม ป.อ. มาตรา 96 ต้องฟังยุติเรื่องวันเวลาที่รู้เรื่องและรู้ตัวก่อน จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมาย เมื่อคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาจึงไม่อาจรับวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวได้ พิพากษายกฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
3399/2568
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง;
ป.อ. มาตรา 96 ป.วิ.อ. มาตรา 218, มาตรา 221, มาตรา 224 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง
พ.ศ.2499 มาตรา 4 พ.ร.บ.ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด
พ.ศ.2520 มาตรา 3
การที่จำเลยฎีกาว่า
คดีโจทก์ในความผิดฐานฉ้อโกงขาดอายุความ
เพราะผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดนั้น
ในการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวต้องย้อนไปวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดเมื่อไร
และร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่
ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นอ้าง
อันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ถาม-ตอบ
ตามหลักคำพิพากษาศาลฎีกา
Q1: การฎีกาต่อสู้ว่า
"คดีขาดอายุความร้องทุกข์" (ตาม ป.อ. มาตรา 96) ถือเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายหรือปัญหาข้อเท็จจริง?
A1:
ถือเป็น ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมาย เพราะก่อนที่ศาลจะวินิจฉัยข้อกฎหมายเรื่องอายุความได้
ศาลจำต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้ได้ความยุติเสียก่อนว่า
"ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดเมื่อใด" และ
"ได้ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนนับแต่วันนั้นหรือไม่"
Q2: หากคดีนั้นต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
(เช่น ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218) จำเลยจะสามารถฎีกาเรื่องคดีขาดอายุความร้องทุกข์ได้หรือไม่?
A2:
ไม่ได้ หากคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาจะไม่รับวินิจฉัยประเด็นนี้และจะพิพากษายกฎีกา
เนื่องจากประเด็นเรื่องอายุความร้องทุกข์ต้องอาศัยการฟังพยานหลักฐาน (ข้อเท็จจริง)
เป็นเบื้องต้นก่อน
Q3: ศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งรับฎีกาในประเด็นเรื่องอายุความร้องทุกข์
ในคดีที่ต้องห้ามฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่?
A3: ไม่มีอำนาจสั่งรับ ถือเป็นการสั่งรับที่ไม่ชอบ หากศาลชั้นต้นเผลอสั่งรับมา ศาลฎีกาก็จะไม่รับวินิจฉัยประเด็นดังกล่าว
