ฎีกาที่ 3270/2568 สิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงภายหลังศาลอุทธรณ์วินิจฉัยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 245 วรรคสอง


สิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงภายหลังศาลอุทธรณ์วินิจฉัยตาม ป.วิ.อ. มาตรา
245 วรรคสอง

จำเลยอุทธรณ์เพียงขอให้ลงโทษสถานเบา การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดหรือไม่ เป็นการใช้อำนาจตาม ป.วิ.อ. มาตรา 245 วรรคสอง เมื่อพิพากษายืน ข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดหรือไม่จึงเป็นอันถึงที่สุด จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาว่าพยานโจทก์น่าสงสัย (ป.วิ.อ. มาตรา 227) ได้อีก

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3270/2568

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง; ป.อ. มาตรา 91 (3), มาตรา 277 ป.วิ.อ. มาตรา 245 วรรคสอง, มาตรา 277

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยมีอาวุธปืนหรือโดยใช้มีดเป็นอาวุธตาม ป.อ. มาตรา 277 วรรคสาม (เดิม) รวม 4 กระทง และให้จำคุกกระทงละตลอดชีวิต แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุกจำเลยตลอดชีวิต ตาม ป.อ. มาตรา 91 (3) จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ลงโทษจำเลยเบากว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้น การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดดังกล่าวหรือไม่ ย่อมเป็นการวินิจฉัยโดยอาศัยอำนาจตาม ป.วิ.อ. มาตรา 245 วรรคสอง เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน ข้อเท็จจริงที่ว่า จำเลยกระทำความผิดตามคำพิพากษาหรือไม่ จึงเป็นอันถึงที่สุดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 245 วรรคสอง จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาว่า พยานโจทก์ยังเป็นที่สงสัยตามสมควรว่า จำเลยกระทำความผิดหรือไม่ ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 227 วรรคสอง อันเป็นทำนองว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้องได้อีก

 

คำถาม: ในคดีที่มีโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต หากจำเลยไม่ได้ยื่นอุทธรณ์โต้แย้งว่าตนมิได้กระทำความผิด แต่ศาลอุทธรณ์ได้ตรวจสำนวนและวินิจฉัยยืนตามศาลชั้นต้นโดยอาศัยอำนาจตาม ป.วิ.อ. มาตรา 245 วรรคสอง จำเลยจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (เช่น ขอให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัย) ได้หรือไม่?

คำตอบ: ไม่ได้ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดหรือไม่ในกรณีนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติของกฎหมาย (มาตรา 245 วรรคสอง) เพื่อตรวจสอบความถูกต้องในคดีที่มีโทษสูง "มิได้วินิจฉัยเพราะจำเลยอุทธรณ์" เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงถือเป็นอัน "ยุติ" หรือ "ถึงที่สุด" ตามกฎหมายแล้ว จำเลยจึงไม่มีสิทธิยกขึ้นฎีกาว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังน่าสงสัย (ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 227) ได้อีก

 


แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า