ฎีกาที่ 2981/2568 การนำวงเงินคุ้มครองผู้ประสบภัยสำหรับการเสียชีวิตมาหักออกจากค่าปลงศพ ค่ารักษาพยาบาล และค่าขาดไร้อุปการะที่จำเลยต้องรับผิด

ข้อเท็จจริง: จำเลยขับรถกระบะขณะเมาสุราและขับด้วยความเร็วสูง พุ่งชนแผงค้าขายเสื้อผ้า เป็นเหตุให้สามีของโจทก์ร่วมที่ 3 เสียชีวิต และโจทก์ร่วมที่ 3 (ภริยา) ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทรัพย์สินเสียหาย

ประเด็นข้อกฎหมาย: โจทก์ร่วมได้รับเงินจากบริษัทประกันภัย (พ.ร.บ.) จำนวน 2 กรมธรรม์ รวมเป็นเงิน 1,000,000 บาท (กรมธรรม์ละ 500,000 บาท) ปัญหาคือเงินจำนวนนี้จะนำมาหักออกจาก "ค่าขาดไร้อุปการะ" ที่ศาลกำหนดให้ 1,200,000 บาท ได้หรือไม่?

 


คำวินิจฉัยศาลฎีกา:

1.     การแยกส่วนเงินประกัน: เงินคุ้มครอง 500,000 บาท แยกเป็น 2 ส่วน

ส่วนแรก (ค่าเสียหายเบื้องต้น): 35,000 บาท ใช้สำหรับค่ารักษาพยาบาลและค่าปลงศพโดยเฉพาะ

ส่วนที่สอง (ส่วนเกินค่าเสียหายเบื้องต้น): 465,000 บาท กฎหมายไม่ได้ระบุว่าคุ้มครองอะไรเป็นพิเศษ จึงถือว่าคุ้มครองความเสียหาย ทุกอย่าง จากการละเมิด รวมถึง "ค่าขาดไร้อุปการะ" ด้วย

ลำดับการหักเงิน: ให้นำ เงินส่วนที่สอง (465,000 บาท x 2 กรมธรรม์ = 930,000 บาท) ไปหักชำระค่าปลงศพและค่ารักษาพยาบาลส่วนที่ยังขาดอยู่ให้หมดก่อน หากมีเงินเหลือ ให้นำมาหักออกจาก ค่าขาดไร้อุปการะ

2.     ผลแห่งคดี: ศาลฎีกาให้นำเงินประกันส่วนที่เหลือมาหักออกจากค่าขาดไร้อุปการะ ทำให้จำเลยชำระเงินส่วนนี้น้อยลงกว่าที่ศาลอุทธรณ์กำหนด

 



คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2981/2568

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง; พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มาตรา 4

 

สำเนาตารางกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถของบริษัทประกันภัยกำหนดค่าสินไหมทดแทนระบุจำนวนเงินคุ้มครองผู้ประสบภัยสำหรับการเสียชีวิตไว้ 500,000 บาท โดยกำหนดค่าเสียหายเบื้องต้นไว้ 35,000 บาท ซึ่งตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มาตรา 4 ให้คำจำกัดความค่าเสียหายเบื้องต้นว่า ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดการศพ รวมทั้งค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอย่างอื่นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยในเบื้องต้น เมื่อหักค่าเสียหายเบื้องต้นออกจากวงเงินคุ้มครองผู้ประสบภัยสำหรับการเสียชีวิต ผู้ประสบภัยจะได้รับค่าสินไหมทดแทนส่วนที่สองตามวงเงินคุ้มครองผู้ประสบภัยอีกเพียง 465,000 บาท ค่าสินไหมทดแทนในส่วนที่สองนี้ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มิได้บัญญัติไว้เฉพาะว่าเป็นความคุ้มครองความเสียหายในส่วนใด ค่าสินไหมทดแทนในส่วนนี้จึงถือว่าเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อชดเชยความเสียหายใด ๆ อันเกิดจากการทำละเมิดกรณีที่ผู้ถูกทำละเมิดถึงแก่ความตาย ซึ่งรวมถึงค่าขาดไร้อุปการะด้วย แต่ต้องนำค่าสินไหมทดแทนส่วนที่สองมาหักจากค่าปลงศพและค่ารักษาพยาบาลก่อนผู้ตายถึงแก่ความตายให้หมดสิ้นเสียก่อน เหลือเท่าใดจึงนำมาหักเป็นค่าขาดไร้อุปการะที่จำเลยต้องรับผิด

 

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า