คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๒๔/๒๕๖๗
ในการเสนอคําฟ้องนั้น
ป.วิ.พ. มาตรา ๔ (๑) บัญญัติว่า “คําฟ้อง
ให้เสนอต่อศาลที่จําเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลหรือต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลไม่ว่าจําเลยจะมีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักรหรือไม่”
คําว่า “มูลคดี” หมายถึง
เหตุอันเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิอันจะทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้อง
มูลคดีของเรื่องนี้เป็นเรื่องสัญญาซื้อขาย การที่จําเลยที่ ๒ หรือพนักงานร้าน บ.
ของจําเลยที่ ๒ โทรศัพท์สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ ซึ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา ๓๕๖
บัญญัติให้ถือว่าเป็นคําเสนอแก่บุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้าด้วยเช่นกันนั้น
คงมีผลแต่เพียงว่าการที่บุคคล
คนหนึ่งทำคําาเสนอไปยังบุคคลอีกคนหนึ่งทางโทรศัพท์ดังกล่าว
หากมิได้บ่งระยะเวลาให้ทำคำสนองไว้ เสนอ ณ ที่ใดเวลาใดก็ย่อมจะสนองรับได้แต่ ณ
ที่นั้นเวลานั้นเท่านั้น มิได้บัญญัติไปถึงกับให้ถือว่าขณะนั้น ทั้งผู้เสนอและผู้สนองอยู่ในสถานที่เดียวกันด้วย
ขณะมีการเจรจาตกลงทำสัญญาซื้อขายรายนี้ จําเลยที่ ๒ หรือพนักงานร้าน บ.
ของจําเลยที่ ๒ เจรจาอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี
ส่วนโจทก์เจรจาอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ดังนั้น
ทั้งจังหวัดสมุทรปราการที่โจทก์อยู่และจังหวัดกาญจนบุรีที่จําเลยที่ ๒ อยู่
จึงต่างเป็นสถานที่ก่อให้เกิดสัญญาซื้อขายรายนี้ร่วมกัน โจทก์จึงฟ้องจําเลยที่ ๒
ต่อศาลชั้นต้น (ศาลแขวงสมุทรปราการ) อันเป็นศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลได้
การที่จําเลยที่ ๒
ผู้เสนอได้รับคําสนองรับจากโจทก์นั้นเป็นแต่เพียงข้อพิจารณาว่าสัญญาเกิดขึ้นแล้วหรือไม่เท่านั้น
มิได้ทำให้สถานที่ ที่จําเลยที่ ๒ อยู่เป็นสถานที่มูลคดีเกิดเพียงแห่งเดียวแต่อย่างใด
หมายเหตุ
ฎีกาที่ ๑๒๙๗๘/๒๕๕๕
จำเลยซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
โทรศัพท์มาหาโจทก์ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดชัยนาท
เพื่อเสนอขายสมุดคู่มือจดทะเบียนรถตามฟ้อง
และโจทก์ตอบตกลงว่าจะรับซื้อสมุดคู่มือจดทะเบียนรถจากจำเลยไว้
มูลคดีจึงเกิดที่ภูมิลำเนาของจำเลยซึ่งเป็นสถานที่ที่คำสนองรับซื้อของโจทก์ไปถึงจำเลย
อันอยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดพิษณุโลก
โจทก์จึงต้องฟ้องจำเลยที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก
ซึ่งเป็นศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลและมูลคดีเกิดในเขตศาล
แม้โจทก์นัดจำเลยให้ส่งมอบสมุดคู่มือจดทะเบียนรถให้แก่โจทก์ที่อำเภออินทร์บุรี
จังหวัดสิงห์บุรี
ก็มิใช่สถานที่ที่ต้นเหตุพิพาทอันเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิต่อโจทก์เกิดขึ้น
หาทำให้มูลคดีซึ่งเกิดขึ้นที่จังหวัดพิษณุโลกอันเป็นภูมิลำเนาของจำเลยเปลี่ยนแปลงไปไม่
โจทก์จึงไม่มีอำนาจเสนอคำฟ้องต่อศาลจังหวัดสิงห์บุรี
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๔
เว้นแต่จะมีบทบัญญัติเป็นอย่างอื่น
(๑) คำฟ้อง
ให้เสนอต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล
หรือต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลไม่ว่าจำเลยจะมีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักรหรือไม่
(๒) คำร้องขอ
ให้เสนอต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาล
หรือต่อศาลที่ผู้ร้องมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล
0 Comments
แสดงความคิดเห็น