การที่พยานไม่ว่าคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนในพินัยกรรมลงลายมือชื่อในพินัยกรรมโดยไม่เห็นเหตุการณ์ขณะทำพินัยกรรม แต่มาลงลายมือชื่อในภายหลัง ก็ย่อมไม่ชอบด้วยบทบัญญัติกฎหมายมาตราดังกล่าวและทำให้พินัยกรรมเป็นโมฆะไปในทันทีตาม ป.พ.พ. มาตรา 1705
แบบพินัยกรรมเป็น ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏในสำนวน
ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225
วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
11034/2553
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง;
ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคสอง ป.พ.พ. มาตรา 1656,
มาตรา 1705
แม้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงว่า
พินัยกรรมปลอมหรือไม่โดยมิได้กำหนดประเด็นว่า พินัยกรรมเป็นโมฆะหรือไม่
แต่ปัญหาเรื่องแบบของพินัยกรรมเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
และโจทก์ก็บรรยายฟ้องมาด้วยว่า พยานในพินัยกรรมไม่รู้เห็นขณะทำพินัยกรรมอันเป็นการยกเรื่องแบบพินัยกรรมมาเป็นข้อต่อสู้ด้วย
เมื่อมีข้อเท็จจริงดังกล่าวในการดำเนินกระบวนการพิจารณา
ศาลจึงมีอำนาจหยิบยกปัญหาว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225
วรรคสอง
ป.พ.พ.
มาตรา 1656
วรรคแรก บัญญัติกำหนดแบบของพินัยกรรมแบบธรรมดาไว้ว่า
ผู้ทำพินัยกรรมแบบที่เป็นหนังสือนั้นต้องมีพยานอย่างน้อยสองคนและพยานจะต้องลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมไว้ในขณะนั้นเป็นสำคัญ
ดังนั้น การที่พยานไม่ว่าคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนในพินัยกรรมลงลายมือชื่อในพินัยกรรมโดยไม่เห็นเหตุการณ์ขณะทำพินัยกรรม
แต่มาลงลายมือชื่อในภายหลัง
ก็ย่อมไม่ชอบด้วยบทบัญญัติกฎหมายมาตราดังกล่าวและทำให้พินัยกรรมเป็นโมฆะไปในทันทีตาม
ป.พ.พ. มาตรา 1705 แม้ต่อมาภายหลังพยานในพินัยกรรมมาสอบถามผู้ทำพินัยกรรมและได้ความว่าผู้ทำพินัยกรรมมีความประสงค์จะทำพินัยกรรมจริง
ก็ไม่มีผลทำให้พินัยกรรมที่เป็นโมฆะไปแล้วกลับกลายเป็นพินัยกรรมที่มีผลสมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายไปได้
Q1: หากทนายความโจทก์ลืมตั้งประเด็นเรื่อง
"แบบพินัยกรรมไม่ถูกต้อง" ไว้ในคำฟ้อง
ศาลสามารถตัดสินให้พินัยกรรมเป็นโมฆะได้หรือไม่?
A1:
ได้ เพราะเรื่องแบบของพินัยกรรมถือเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับ
ความสงบเรียบร้อยของประชาชน หากในการพิจารณามีข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่าทำผิดแบบ
(เช่น พยานไม่ได้เซ็นต่อหน้า) ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา
225 วรรคสอง
แม้จะไม่มีการกำหนดประเด็นข้อพิพาทเรื่องนี้ไว้ก็ตาม
Q2: พยานไม่ได้อยู่ในห้องตอนผู้ตายเซ็นชื่อ
แต่มาเซ็นชื่อเป็นพยานในวันรุ่งขึ้น โดยผู้ตายยืนยันกับพยานคนนั้นว่า
"ฉันตั้งใจทำจริงๆ" พินัยกรรมนี้สมบูรณ์หรือไม่?
A2:
เป็นโมฆะ กฎหมายมาตรา 1656 บังคับเคร่งครัดว่าพยานต้องลงลายมือชื่อรับรอง "ในขณะนั้น" (พร้อมกันกับผู้ทำพินัยกรรม)
การเซ็นชื่อย้อนหลังทำให้พินัยกรรมเสียเปล่าไปทันที
การที่ผู้ตายมายืนยันเจตนาภายหลัง ไม่สามารถเยียวยาความเสียเปล่า (โมฆะ)
ให้กลับมาสมบูรณ์ได้
