ฎีกาที่ 11304/2553 ไม่เห็นเหตุการณ์ขณะทำพินัยกรรม พินัยกรรมเป็นโมฆะหรือไม่ ป.พ.พ.มาตรา 1656

           


 
การที่พยานไม่ว่าคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนในพินัยกรรมลงลายมือชื่อในพินัยกรรมโดยไม่เห็นเหตุการณ์ขณะทำพินัยกรรม แต่มาลงลายมือชื่อในภายหลัง ก็ย่อมไม่ชอบด้วยบทบัญญัติกฎหมายมาตราดังกล่าวและทำให้พินัยกรรมเป็นโมฆะไปในทันทีตาม ป.พ.พ. มาตรา 1705

         แบบพินัยกรรมเป็น ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏในสำนวน ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคสอง

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11034/2553

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง; ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคสอง ป.พ.พ. มาตรา 1656, มาตรา 1705

แม้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงว่า พินัยกรรมปลอมหรือไม่โดยมิได้กำหนดประเด็นว่า พินัยกรรมเป็นโมฆะหรือไม่ แต่ปัญหาเรื่องแบบของพินัยกรรมเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน และโจทก์ก็บรรยายฟ้องมาด้วยว่า พยานในพินัยกรรมไม่รู้เห็นขณะทำพินัยกรรมอันเป็นการยกเรื่องแบบพินัยกรรมมาเป็นข้อต่อสู้ด้วย เมื่อมีข้อเท็จจริงดังกล่าวในการดำเนินกระบวนการพิจารณา ศาลจึงมีอำนาจหยิบยกปัญหาว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคสอง

ป.พ.พ. มาตรา 1656 วรรคแรก บัญญัติกำหนดแบบของพินัยกรรมแบบธรรมดาไว้ว่า ผู้ทำพินัยกรรมแบบที่เป็นหนังสือนั้นต้องมีพยานอย่างน้อยสองคนและพยานจะต้องลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมไว้ในขณะนั้นเป็นสำคัญ ดังนั้น การที่พยานไม่ว่าคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนในพินัยกรรมลงลายมือชื่อในพินัยกรรมโดยไม่เห็นเหตุการณ์ขณะทำพินัยกรรม แต่มาลงลายมือชื่อในภายหลัง ก็ย่อมไม่ชอบด้วยบทบัญญัติกฎหมายมาตราดังกล่าวและทำให้พินัยกรรมเป็นโมฆะไปในทันทีตาม ป.พ.พ. มาตรา 1705 แม้ต่อมาภายหลังพยานในพินัยกรรมมาสอบถามผู้ทำพินัยกรรมและได้ความว่าผู้ทำพินัยกรรมมีความประสงค์จะทำพินัยกรรมจริง ก็ไม่มีผลทำให้พินัยกรรมที่เป็นโมฆะไปแล้วกลับกลายเป็นพินัยกรรมที่มีผลสมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายไปได้

 

Q1: หากทนายความโจทก์ลืมตั้งประเด็นเรื่อง "แบบพินัยกรรมไม่ถูกต้อง" ไว้ในคำฟ้อง ศาลสามารถตัดสินให้พินัยกรรมเป็นโมฆะได้หรือไม่?

A1: ได้ เพราะเรื่องแบบของพินัยกรรมถือเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับ ความสงบเรียบร้อยของประชาชน หากในการพิจารณามีข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่าทำผิดแบบ (เช่น พยานไม่ได้เซ็นต่อหน้า) ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคสอง แม้จะไม่มีการกำหนดประเด็นข้อพิพาทเรื่องนี้ไว้ก็ตาม

Q2: พยานไม่ได้อยู่ในห้องตอนผู้ตายเซ็นชื่อ แต่มาเซ็นชื่อเป็นพยานในวันรุ่งขึ้น โดยผู้ตายยืนยันกับพยานคนนั้นว่า "ฉันตั้งใจทำจริงๆ" พินัยกรรมนี้สมบูรณ์หรือไม่?

A2: เป็นโมฆะ กฎหมายมาตรา 1656 บังคับเคร่งครัดว่าพยานต้องลงลายมือชื่อรับรอง "ในขณะนั้น" (พร้อมกันกับผู้ทำพินัยกรรม) การเซ็นชื่อย้อนหลังทำให้พินัยกรรมเสียเปล่าไปทันที การที่ผู้ตายมายืนยันเจตนาภายหลัง ไม่สามารถเยียวยาความเสียเปล่า (โมฆะ) ให้กลับมาสมบูรณ์ได้

 

 

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า