ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 91 เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
ให้ศาลลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แต่ไม่ว่าจะมีการเพิ่มโทษ ลดโทษ
หรือลดมาตราส่วนโทษด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว
โทษจำคุกทั้งสิ้นต้องไม่เกินกำหนดดังต่อไปนี้
(1) สิบปี
สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสามปี
(2) ยี่สิบปี
สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีแต่ไม่เกินสิบปี
(3) ห้าสิบปี
สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสิบปีขึ้นไป
เว้นแต่กรณีที่ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
หมายเหตุ
ฎีกาที่ 3133/2568
จำเลยหลอกลวงโจทก์โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จ
อธิบายขั้นตอนในการซื้อการจองสลากกินแบ่งรัฐบาล
แนะนำวิธีการขายส่งให้แก่ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายอื่น
จนกระทั่งโจทก์หลงเชื่อว่าจำเลยสามารถจัดหาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาขายส่งให้แก่ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลและได้กำไร
จึงเริ่มลงทุนกับจำเลย
โดยการหลอกลวงแต่ละครั้งจำเลยมักจะแวะเวียนมาพูดคุยหลอกลวงชักชวนที่ร้านค้าของโจทก์เป็นประจำ
ในแต่ละงวดเมื่อจำเลยจัดหาสลากกินแบ่งรัฐบาลได้แล้ว
จะแจ้งโจทก์ว่าได้สลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำนวนกี่กล่อง ในราคาใบละกี่บาท
หากนำไปขายต่อจะได้กำไรมาแบ่งกัน และถามโจทก์ว่าสนใจจะร่วมลงทุนเท่าใด
บางครั้งเมื่อโจทก์ลงทุนไปแล้วจำเลยจะหลอกลวงโดยนำกำไรที่ได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลและเงินลงทุนของโจทก์บางส่วนมามอบให้แก่โจทก์เพื่อสร้างความไว้ใจ
และหลอกลวงให้โจทก์ลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลในงวดถัดไปต่ออีก แสดงให้เห็นว่า
การที่โจทก์มอบเงินให้แก่จำเลยในแต่ละครั้งนั้น
เกิดจากการหลอกลวงของจำเลยในแต่ละครั้งแยกจากกัน
โดยจำเลยจะแสดงข้อความอันเป็นเท็จในแต่ละครั้งว่ามีสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนกี่กล่อง
ตามพฤติการณ์แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าประสงค์หลอกลวงโจทก์ในแต่ละครั้งแยกต่างหากจากกัน
โดยแต่ละครั้งจะแสดงข้อความหลอกลวงอันเป็นเท็จและจำนวนเงินที่แตกต่างกันไป
การกระทำของจำเลยจึงสำเร็จและเสร็จสิ้นลงเมื่อโจทก์หลงเชื่อโอนเงินให้แก่จำเลยตามที่ถูกหลอกลวงในแต่ละครั้ง
และในการกระทำแต่ละครั้งจำเลยสามารถยับยั้งการกระทำผิดได้เอง กรณีหาใช่เรื่องที่สืบเนื่องมาจากการกระทำของจำเลยในครั้งแรกโดยมีเจตนาเดียวกันเพื่อให้ได้รับเงินจากโจทก์ไม่
การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
0 Comments
แสดงความคิดเห็น