ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 237 เจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอให้ศาลเพิกถอนเสียได้ซึ่งนิติกรรมใด ๆ
อันลูกหนี้ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ
แต่ความข้อนี้ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าปรากฏว่าในขณะที่ทำนิติกรรมนั้น
บุคคลซึ่งเป็นผู้ได้ลาภงอกแต่การนั้นมิได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบนั้นด้วย
แต่หากกรณีเป็นการทำให้โดยเสน่หา
ท่านว่าเพียงแต่ลูกหนี้เป็นผู้รู้ฝ่ายเดียวเท่านั้นก็พอแล้วที่จะขอเพิกถอนได้
บทบัญญัติดังกล่าวมาในวรรคก่อนนี้
ท่านมิให้ใช้บังคับแก่นิติกรรมใดอันมิได้มีวัตถุเป็นสิทธิในทรัพย์สิน
หมายเหตุ
ฎีกาที่ 3107/2568
แม้โจทก์มิใช่เจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 ในขณะที่จำเลยที่
1 จดทะเบียนยกที่ดินให้จำเลยที่ 3 แต่เมื่อโจทก์รับโอนสิทธิเรียกร้องมาแล้วย่อมมีฐานะเป็นเจ้าหนี้เช่นกัน
จึงต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิเช่นเดียวกับเจ้าหนี้เดิมที่โอนสิทธิเรียกร้อง
เจ้าหนี้ที่อาจใช้สิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมตาม ป.พ.พ. มาตรา 237 จึงไม่จำกัดเฉพาะเจ้าหนี้ในขณะที่ลูกหนี้ทำนิติกรรมฉ้อฉลเท่านั้น
แต่หมายรวมถึงเจ้าหนี้ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องด้วย
โจทก์ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องจึงมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้โอนสิทธิเรียกร้องในการฟ้องขอเพิกถอนนิติกรรมที่ฉ้อฉลตาม
ป.พ.พ. มาตรา 237
0 Comments
แสดงความคิดเห็น