คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๒๒๖/๒๕๖๔

                    ประเด็นฟ้องโจทก์ขาดอายุความละเมิดหรือไม่ แม้จำเลยให้การต่อสู้ไว้ เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยครอบครองทรัพย์ที่เช่าภายหลังโจทก์บอกเลิกสัญญาเป็นการละเมิดอยู่ตลอดเวลา และไม่อาจเริ่มนับอายุความได้ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ จำเลยมิได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น เท่ากับจำเลยไม่ติดใจที่จะอุทธรณ์โต้แย้งอีกต่อไปย่อมเป็นอันยุติไป จำเลยจะหวนกลับยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาอีกไม่ได้ ถือว่าเป็นการฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๕ วรรคหนึ่ง ประกอบ มาตรา ๒๕๒

                    ฎีกาของจำเลยที่อ้างเอกสารแนบท้ายอุทธรณ์ว่า คณะรัฐมนตรีให้โอนการบริหารตลาดนัดจตุจักรของโจทก์ไปอยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร แต่มติคณะรัฐมนตรีไม่มีสภาพเป็นกฎหมายแม้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาก็ไม่ทำให้กลายเป็นข้อเท็จจริงซึ่งรู้กันอยู่ทั่วไปที่ศาลจะรู้เองได้ จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่คู่ความจะต้องนำสืบโดยอาศัยพยานหลักฐานในสำนวนคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๔ แม้ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่คู่ความที่เกี่ยวข้องย่อมมีสิทธิจะยกขึ้นอ้างซึ่งปัญหาเช่นนั้นได้ แต่จะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาจากข้อเท็จจริงในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบ จำเลยเพิ่งกล่าวอ้างในอุทธรณ์และฎีกาซึ่งเป็นเรื่องที่ยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในเรื่องอำนาจฟ้อง จึงไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๕๒ จำเลยไม่มีสิทธิยกขึ้นฎีกา

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

                    มาตรา ๒๒๕ ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างในการยื่นอุทธรณ์นั้นคู่ความจะต้องกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในอุทธรณ์และต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ทั้งจะต้องเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยด้วย

                    ถ้าคู่ความฝ่ายใดมิได้ยกปัญหาข้อใดอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นกล่าวในศาลชั้นต้นหรือคู่ความฝ่ายใดไม่สามารถยกปัญหาข้อกฎหมายใด ๆ ขึ้นกล่าวในศาลชั้นต้น เพราะพฤติการณ์ไม่เปิดช่องให้กระทำได้ หรือเพราะเหตุเป็นเรื่องที่ไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติว่าด้วยกระบวนพิจารณาชั้นอุทธรณ์ คู่ความที่เกี่ยวข้องย่อมมีสิทธิที่จะยกขึ้นอ้างซึ่งปัญหาเช่นว่านั้นได้

                    มาตรา ๒๕๒ ในกรณีที่ไม่มีข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาตามมาตรา ๒๕๐ กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้นำบทบัญญัติในลักษณะ ๑ ว่าด้วยอุทธรณ์มาใช้บังคับโดยอนุโลม