ฎีกาที่ 719/2568(ประชุมใหญ่) ริบทรัพย์ ป.อ.มาตรา 18 มาตรา 33


คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 719/2568(ประชุมใหญ่)

ข้อเท็จจริงในคดี (The Fact): จำเลยใช้รถยนต์เก๋งส่วนตัวขับไปจอดรอบนดอยผาหมี (แนวชายแดนไทย-เมียนมา) เพื่อรับคนต่างด้าวชาวจีน 2 คน ที่เพิ่งเดินเท้าข้ามช่องทางธรรมชาติเข้ามา แล้วขับรถพาหลบหนีทันที แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ระหว่างทาง

ประเด็นข้อกฎหมาย (Legal Issue): รถยนต์เก๋งของจำเลย ถือเป็น "ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง" ซึ่งศาลมีอำนาจสั่งริบตามกฎหมายหรือไม่? หรือเป็นเพียงแค่พาหนะโดยสารทั่วไป?

 

(ฎีกาย่อ)

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง; ป.อ. มาตรา 18 (5), มาตรา 33 (1) พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง

การที่จำเลยใช้รถยนต์เก๋งของกลางไปจอดรอบนดอยผาหมี ซึ่งเป็นภูเขาและเป็นแนวชายแดนของราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา แล้วรับคนต่างด้าวที่เพิ่งเดินลัดเลาะมาจากภูเขาฝั่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาในราชอาณาจักรไทย หลบหนีไปทันที แสดงให้เห็นถึงการติดต่อนัดหมายวางแผนกันกับคนต่างด้าวไว้เป็นอย่างดีมาก่อน โดยจำเลยไปรอคอยและใช้รถยนต์เก๋งในการพาคนต่างด้าวหลบหนีเพื่อให้เกิดความสะดวกในการกระทำความผิด ทำให้การลักลอบนำพาคนต่างด้าวหลบหนีมีความแนบเนียนเสมือนเป็นการโดยสารรถยนต์ทั่วไป เพื่อให้พ้นการจับกุม พฤติการณ์ในการใช้รถยนต์เก๋งของกลางของจำเลยในขณะกระทำความผิดตามฟ้องจึงไม่ใช่เป็นเพียงใช้เป็นพาหนะโดยสารโดยทั่วไป หากแต่เป็นการใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง อันควรริบตาม ป.อ. มาตรา 33 (1) เพื่อไม่ให้จำเลยมีโอกาสใช้ทรัพย์ในการกระทำความผิดเช่นเดียวกันนั้นได้อีก และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้ที่คิดกระทำความผิดเช่นเดียวกันนี้


ตัวบท ป.อ.มาตรา 18


แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า