"สู้คดีปลอมแปลงเอกสาร: ขโมย 'เช็คเปล่า' หรือแก้ 'พาสปอร์ต' ผิดอาญามาตราไหน? สรุปข้อกฎหมายที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้ก่อน

 ความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับคำว่า "เอกสาร" อาจนำไปสู่ คดีอาญา ที่มีโทษร้ายแรงถึงขั้นจำคุกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของกิจการที่กำลังเผชิญปัญหาเรื่อง เช็คเด้ง หรือนักเดินทางที่ต้องใช้หนังสือเดินทาง การรู้เท่าทันนิยามทางกฎหมายคือเกราะป้องกันตัวที่ดีที่สุด

หลายคนมักเข้าใจผิดว่า "เอกสาร" ต้องเป็นเพียงกระดาษที่มีลายเซ็นเท่านั้น แต่ในมุมมองของกฎหมายนิยามนี้กว้างไกลกว่านั้นมาก คำถามที่น่าสนใจคือ การขโมยแบบพิมพ์เช็คที่ยังไม่ได้กรอกตัวเลข ถือเป็นความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารหรือไม่? หรือ การแกะรูปถ่ายใน หนังสือเดินทาง (Passport) มาเปลี่ยนใหม่ ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารราชการหรือไม่ ทั้งที่รูปถ่ายไม่ใช่เอกสาร?

บทความนี้ "ฎีกาศึกษา" ได้รวบรวมแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่สำคัญ (ฎีกาที่ 4495/2548, 5674/2544 และ 1277/2537) ซึ่งเป็นบรรทัดฐานที่ ที่ปรึกษากฎหมาย ใช้ในการต่อสู้คดี มาย่อยให้เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณรู้ขอบเขตของกฎหมาย ปกป้องสิทธิของตนเองได้อย่างถูกต้อง


              ฎีกาที่ 4495/2548 คำว่าเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(7) หมายความว่า กระดาษหรือวัตถุอื่นใดซึ่งทำให้ปรากฏความหมายด้วยอักษร ตัวเลข ผัง หรือแผนแบบอย่างอื่น จะเป็นโดยวิธีพิมพ์ ถ่ายภาพ หรือวิธีอื่นใดอันเป็นหลักฐานความหมายนั้น ดังนั้น เอกสารจะมีขึ้นในรูปใด ๆ ก็ได้ การปลอมเอกสารจึงไม่ต้องมีเอกสารที่แท้จริงอยู่ก่อน

               ฎีกาที่ 5674/2544 แบบพิมพ์เช็คที่ยังไม่ได้กรอกรายการเท่ากับยังมิได้ทำให้ปรากฏความหมายด้วยตัวอักษร ตัวเลข อันเป็นหลักฐานแห่งความหมายนั้นจึงไม่เป็นเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(7) แม้จำเลยเอาแบบพิมพ์เช็คของผู้เสียหายไป ก็ไม่มีความผิดตามมาตรา 188

               ฎีกาที่ 1277/2537 จำเลยเอาหนังสือเดินทาง ซึ่งกระทรวงต่างประเทศออกให้แก่ ส. มาแก้ไขโดยแกะเอาภาพถ่ายของ ส. ที่ปิดอยู่ในปกด้านในออกแล้วเอาภาพถ่ายของจำเลยปิดลงไปแทนนั้น แม้ภาพถ่ายจะไม่ใช่เอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(7) ก็ตาม แต่เมื่อนำไปปิดลงในหนังสือเดินทางดังกล่าว ย่อมทำให้ความหมายที่แท้จริงของหนังสือเดินทางเปลี่ยนแปลงไปว่าจำเลย คือ ส. และเป็นหนังสือเดินทางที่กระทรวงการต่างประเทศออกให้แก่จำเลยโดยตรง ภาพถ่ายของจำเลยที่ไม่เป็นเอกสารจึงเกิดเป็นเอกสาร หนังสือเดินทางของ ส. กลายเป็นหนังสือเดินทางของจำเลยเอง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมแปลงเอกสารราชการ


จากแนวคำพิพากษาศาลฎีกาทั้ง 3 ฉบับ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า กฎหมายอาญา ให้ความสำคัญกับ "ความหมาย" (Meaning) มากกว่าตัววัตถุ

  • เช็คเปล่า: ยังไม่มีความหมาย = ไม่ใช่เอกสาร (ผิดแค่ลักทรัพย์)
  • พาสปอร์ตเปลี่ยนรูป: ความหมายเปลี่ยน = ปลอมแปลงเอกสารราชการ (โทษหนัก)
  • กระดาษ/วัตถุใดๆ: ถ้าทำให้ปรากฏความหมายได้ = เป็นเอกสารทันที

ข้อควรระวังสำหรับเจ้าของธุรกิจและบุคคลทั่วไป: การดำเนินคดีอาญาเกี่ยวกับเอกสารมีจุดตายอยู่ที่ "การตีความ" หากคุณฟ้องผิดมาตรา (เช่น ฟ้องฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสาร ทั้งที่เป็นแค่กระดาษเปล่า) ศาลอาจยกฟ้องได้ทันที ทำให้คุณเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา และอาจถูกฟ้องกลับฐานฟ้องเท็จได้


แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า