คำพิพากษาฎีกาที่ 83/2568

แม้สัญญาแต่งตั้งเป็นผู้แทนศูนย์บริการข้อ 17 ให้สิทธิแก่จำเลยสามารถบอกเลิกสัญญาได้ทันทีในกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้แทนศูนย์บริการไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง แต่สัญญาข้อ 18 กำหนดเงื่อนไขว่าจำเลยจะต้องมีหนังสือแจ้งเตือนแก่ศูนย์บริการแล้ว ลักษณะของสัญญาไม่ชัดแจ้งและสามารถตีความหมายได้หลายนัย ต้องตีความไปตามความประสงค์ในทางสุจริตและที่เป็นคุณแก่โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายผู้ต้องเสียในมูลหนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 11 ประกอบมาตรา 368 แม้โจทก์จะไม่ได้ส่งพนักงานไปเข้ารับการฝึกอบรมกับจำเลยอันเป็นการผิดสัญญาข้อ 9 แต่จำเลยก็มิได้ใช้สิทธิออกหนังสือเตือนตามข้อ 18 ถือได้ว่าจำเลยมิได้ถือเอาข้อกำหนดเงื่อนไขแห่งสัญญาที่โจทก์มิได้ส่งพนักงานไปเข้ารับการฝึกอบรมกับจำเลยเป็นสาระสำคัญในการบอกเลิกสัญญา การที่จำเลยไม่ได้มีหนังสือเตือนโจทก์ก่อนและเพิ่งใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์ภายหลังจากระยะเวลาที่โจทก์ไม่ส่งพนักงานไปฝึกอบรมกับจำเลยแล้วถึง 2 ปี 3 เดือน จึงเป็นการแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาโดยไม่เป็นไปตามข้อตกลงในสัญญา ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 386 ไม่เป็นผลให้สัญญาแต่งตั้งเป็นผู้แทนศูนย์บริการระหว่างโจทก์กับจำเลยเลิกกันเพราะเหตุโจทก์ประพฤติผิดสัญญาคงถือได้ว่าหนังสือบอกเลิกสัญญาของจำเลยเป็นคำเสนอขอเลิกสัญญาแก่โจทก์ ต่อมาโจทก์มีหนังสือถึงจำเลยในทำนองสนองรับการเลิกสัญญาและให้จำเลยรับซื้ออะไหล่ในสต็อกคืนกลับไปและรับอะไหล่เสียคืน และโจทก์มอบหมายให้ทนายความมีหนังสือขอให้จำเลยชำระเงินค่าอะไหล่ที่โจทก์ซื้อไปจากจำเลยค้างอยู่บางส่วน พฤติการณ์ต้องถือว่าโจทก์และจำเลยต่างสมัครใจเลิกสัญญาต่อกันโดยปริยายนับแต่วันที่จำเลยได้รับหนังสือของโจทก์ มิใช่สัญญาเลิกกันเพราะโจทก์หรือจำเลยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา

ในการปฏิบัติตามสัญญาโจทก์มีความจำเป็นจะต้องซื้ออะไหล่มาเก็บไว้สำหรับใช้เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าของจำเลยให้เสร็จภายใน 2-5 วัน ตามดัชนีชี้วัดของจำเลย อะไหล่ที่โจทก์สั่งซื้อมาและยังไม่ได้ใช้ซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าและอยู่ในความครอบครองของโจทก์ก่อนมีการเลิกสัญญาต่อกัน นับได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่จำเลยส่งมอบให้แก่โจทก์ตามสัญญา เมื่อสัญญาเลิกกันโจทก์มีหน้าที่ต้องส่งมอบคืนให้แก่จำเลย และจำเลยต้องใช้คืนราคาให้แก่โจทก์เพื่อกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคหนึ่ง จำเลยจะอ้างว่าการซื้อขายอะไหล่ของโจทก์เป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาด หากมีกรณีต้องคืนอะไหล่โจทก์จะต้องส่งคืนอะไหล่ภายในกำหนด 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกใบกำกับภาษีตามสัญญาแต่งตั้งเป็นผู้แทนศูนย์บริการ ซึ่งเป็นข้อสัญญาที่สิ้นความผูกพันไปแล้วมาใช้บังคับหลังการเลิกสัญญาหาได้ไม่

สิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายเนื่องจากสัญญาเลิกกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคท้าย ต้องเกิดจากสัญญาเลิกกันเพราะจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาแล้วโจทก์ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแก่จำเลย เมื่อโจทก์และจำเลยต่างสมัครใจเลิกสัญญากันโดยปริยาย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์จากอะไหล่ที่โจทก์จำเป็นต้องสั่งซื้อและส่งมอบคืนแก่จำเลยได้