ป.อ.มาตรา 3



ประมวลกฎหมายอาญา

            มาตรา 3 ถ้ากฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดแตกต่างกับกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิด ให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด ไม่ว่าในทางใด เว้นแต่คดีถึงที่สุดแล้ว แต่ในกรณีที่คดีถึงที่สุดแล้ว ดังต่อไปนี้

            (1) ถ้าผู้กระทำความผิดยังไม่ได้รับโทษ หรือกำลังรับโทษอยู่ และโทษที่กำหนดตามคำพิพากษาหนักกว่าโทษที่กำหนดตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง เมื่อสำนวนความปรากฏแก่ศาลหรือเมื่อผู้กระทำความผิด ผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้นั้น ผู้อนุบาลของผู้นั้นหรือพนักงานอัยการร้องขอ ให้ศาลกำหนดโทษเสียใหม่ตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง ในการที่ศาลจะกำหนดโทษใหม่นี้ ถ้าปรากฏว่า ผู้กระทำความผิดได้รับโทษมาบ้างแล้ว เมื่อได้คำนึงถึงโทษตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง หากเห็นเป็นการสมควร ศาลจะกำหนดโทษน้อยกว่าโทษขั้นต่ำที่กฎหมายที่บัญญัติในภายหลังกำหนดไว้ถ้าหากมีก็ได้ หรือถ้าเห็นว่าโทษที่ผู้กระทำความผิดได้รับมาแล้วเป็นการเพียงพอ ศาลจะปล่อยผู้กระทำความผิดไปก็ได้

            (2) ถ้าศาลพิพากษาให้ประหารชีวิตผู้กระทำความผิด และตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง โทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดไม่ถึงประหารชีวิต ให้งดการประหารชีวิตผู้กระทำความผิด และให้ถือว่าโทษประหารชีวิตตามคำพิพากษาได้เปลี่ยนเป็นโทษสูงสุดที่จะพึงลงได้ตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง


สถานการณ์กฎหมายเก่า (ขณะทำผิด)กฎหมายใหม่ (ภายหลัง)ผลทางกฎหมาย (ตาม ม.3)
อัตราโทษจำคุก 5-10 ปีจำคุก 1-5 ปีใช้กฎหมายใหม่ (1-5 ปี) เพราะเป็นคุณ
อัตราโทษจำคุก 1-5 ปีจำคุก 5-10 ปีใช้กฎหมายเก่า (1-5 ปี) เพราะเป็นคุณกว่า
คดีถึงที่สุดแล้วตัดสินจำคุก 10 ปี (กำลังติดคุก)กฎหมายใหม่แก้เหลือจำคุกไม่เกิน 5 ปีร้องขอให้ศาลกำหนดโทษใหม่ได้ (อาจปล่อยตัวถ้าติดมาเกิน 5 ปีแล้ว)

 

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า