ประเด็น
ผู้รับโอนทรัพย์สินติดจำนอง
๑. รายละเอียดหนังสือขอไถ่ถอนจำนอง
๒. โจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีภายในหนึ่งเดือนนับแต่ผู้รับโอนทรัพย์สินติดจำนองเสนอขอไถ่จำนอง
และผู้รับโอนทรัพย์สินติดจำนองมิได้วางเงินไถ่จำนอง ณ สำนักงานวางทรัพย์
จะถือว่าสัญญาจำนองระงับสิ้นไปหรือไม่
๓.
บทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ของผู้รับโอนทรัพย์สินติดจำนอง
ฎีกาที่ ๕๕๖๘/๒๕๖๒ จำเลยที่ ๒
มิได้เป็นลูกหนี้ชั้นต้นและมิใช่คู่สัญญาจำนองแก่โจทก์
แต่เป็นเพียงบุคคลภายนอกผู้รับโอนทรัพย์สินที่ติดจำนองมา จำเลยที่ ๒
มีหน้าที่เพียงปลดเปลื้องภาระจำนองด้วยการไถ่ถอนจำนอง การที่จำเลยที่ ๒
มีหนังสือถึงโจทก์ขอไถ่ถอนจำนองในวงเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
โดยมีเอกสารแนบท้ายประกอบด้วยสำเนาสัญญาจำนอง สำเนาโฉนดที่ดินซึ่งระบุตำแหน่ง
ลักษณะของทรัพย์สินที่จำนอง ชื่อเจ้าของเดิม ชื่อและภูมิลำเนาของผู้รับโอน
วันที่รับโอนกรรมสิทธิ์ รวมทั้งได้แจ้งความประสงค์จะไถ่ถอนจำนองให้จำเลยที่ ๑
ทราบแล้ว หนังสือแจ้งขอไถ่ถอนจำนองของจำเลยที่ ๒ จึงมีรายละเอียดครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๗๓๘ แล้ว
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้มีหนังสือปฏิเสธไม่รับชำระหนี้ตามที่จำเลยที่
๒ ซึ่งเป็นผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนองจะไถ่ถอนจำนองโดยมิได้ฟ้องคดีต่อศาลภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่จำเลยที่
๒ มีคำเสนอเพื่อให้ศาลสั่งขายทอดตลาดทรัพย์ซึ่งจำนอง ถือว่าโจทก์ยอมรับคำเสนอขอไถ่จำนองของจำเลยที่
๒ โดยปริยาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๓๙, ๗๔๑ แล้ว จำเลยที่ ๒ มีสิทธิไถ่จำนองได้ในวงเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่เสนอว่าจะใช้ แม้ต่อมาจำเลยที่ ๒ มีหนังสือถึงโจทก์นัดวัน
เวลา สถานที่ชำระเงินเพื่อไถ่จำนองและโจทก์มิได้ไปตามนัดหมายก็ตาม แต่สัญญาจำนองจะระงับสิ้นไปก็ต่อเมื่อจำเลยที่
๒ ใช้เงินแก่โจทก์ตามที่จำเลยที่ ๒ เสนอขอไถ่ถอนซึ่งสามารถไถ่ถอนจำนองได้ด้วยการวางเงินตามจำนวนที่เสนอขอไถ่ถอนต่อสำนักงานวางทรัพย์
ตามมาตรา ๗๔๑ ประกอบมาตรา ๓๓๑ เมื่อจำเลยที่ ๒ ยังมิได้ไถ่จำนอง สัญญาจำนองจึงยังไม่ระงับสิ้นไป
บทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๗๐๑, ๗๒๗ เป็นเรื่องสิทธิหน้าที่ของผู้ค้ำประกันหรือผู้จำนอง
จำเลยที่ ๒ เป็นเพียงบุคคลภายนอกผู้รับโอนทรัพย์สินโดยติดจำนองซึ่งสิทธิหน้าที่ของ
ผู้รับโอนทรัพย์สินโดยติดจำนองนั้นมีบทบัญญัติโดยเฉพาะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
บรรพ ๓ ลักษณะ ๑๒ หมวด ๕ จำเลยที่ ๒ ไม่อาจอ้างว่าสัญญาจำนองระงับสิ้นไปเพราะผู้จำนองหลุดพ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๗๐๑, ๗๒๗ ประกอบมาตรา ๗๔๔(๓)
เพิ่มเติม
ผู้รับโอนทรัพย์สินติดจำนอง จะขอไถ่ถอนจำนองจำต้องรับว่าจะใช้เงินให้เป็นจำนวนอันสมควรกับราคาทรัพย์สินนั้น(มาตรา
๗๓๘ วรรคหนึ่ง) ซึ่งจำนวนเงินทันสมควรนั้นจะเป็นเท่าใดนั้นต้องพิจารณาจากราคาของทรัพย์พิพาทเป็นสำคัญ(ฎีกาที่
๕๕๕๗/๒๕๖๑)
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๗๓๘
ผู้รับโอนซึ่งประสงค์จะไถ่ถอนจำนองต้องบอกกล่าวความประสงค์นั้นแก่ลูกหนี้ชั้นต้น
และต้องส่งคำเสนอไปยังบรรดาเจ้าหนี้ที่ได้จดทะเบียน
ไม่ว่าในทางจำนองหรือประการอื่น
ว่าจะรับใช้เงินให้เป็นจำนวนอันสมควรกับราคาทรัพย์สินนั้น
คำเสนอนั้นให้แจ้งข้อความทั้งหลายต่อไปนี้
คือ
(๑) ตำแหน่งแหล่งที่และลักษณะแห่งทรัพย์สินซึ่งจำนอง
(๒) วันซึ่งโอนกรรมสิทธิ์
(๓) ชื่อเจ้าของเดิม
(๔) ชื่อและภูมิลำเนาของผู้รับโอน
(๕) จำนวนเงินที่เสนอว่าจะใช้
(๖) คำนวณยอดจำนวนเงินที่ค้างชำระแก่เจ้าหนี้คนหนึ่ง ๆ
รวมทั้งอุปกรณ์และจำนวนเงินที่จะจัดเป็นส่วนใช้แก่บรรดาเจ้าหนี้ตามลำดับกัน
อนึ่ง ให้คัดสำเนารายงานจดทะเบียนของเจ้าพนักงานในเรื่องทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้น อันเจ้าพนักงานรับรองว่าเป็นสำเนาถูกถ้วนสอดส่งไปด้วย
มาตรา ๗๓๙
ถ้าเจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดไม่ยอมรับคำเสนอ
เจ้าหนี้คนนั้นต้องฟ้องคดีต่อศาลภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันมีคำเสนอเพื่อให้ศาลพิพากษาสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้น
แต่ว่าเจ้าหนี้นั้นจะต้องปฏิบัติการดังจะกล่าวต่อไปนี้ด้วย คือ
(๑)
ออกเงินทดรองค่าฤชาธรรมเนียมการขายทอดตลาด
(๒) ต้องเข้าสู้ราคาเอง
หรือแต่งคนเข้าสู้ราคาเป็นจำนวนเงินสูงกว่าที่ผู้รับโอนเสนอจะใช้
(๓) บอกกล่าวการที่ตนไม่ยอมนั้นให้ผู้รับโอนและเจ้าหนี้คนอื่น ๆ บรรดาได้จดทะเบียน กับทั้งเจ้าของทรัพย์คนก่อนและลูกหนี้ชั้นต้นทราบด้วย

0 Comments
แสดงความคิดเห็น