จำเลยใช้อาวุธปืนจี้ผู้เสียหายพร้อมพูดข่มขู่ผู้เสียหายให้ส่งเงินให้
จนผู้เสียหายยอมส่งเงินให้แก่จำเลย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการชิงทรัพย์
โดยมีอาวุธอันมีลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตรา (๗) แห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา
๓๓๕ จึงเป็นความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙ วรรคสอง การที่จำเลยเป็นผู้มีและใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิด
จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙ วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา ๓๔๐ ตรี
เพิ่มเติม
“ประทุษร้าย” มีความหมายอย่างเดียวกับการ “ทำร้าย” ตามมาตรา ๒๙๐ และ มาตรา ๒๔๙๕ คือ ทำให้เสียหายเป็นภัยแก่กายหรือจิตใจของบุคคล อย่างไรก็ตาม การทำร้ายตามมาตรา ๒๙๕ จะต้องเกิดผลคือเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจของบุคคล
แต่ การ “ทำร้าย” ตามความหมายของการใช้กำลังประทุษร้าย อาจจะไม่ถึงขั้นเกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของบุคคล
หรือจะถึงขั้นเกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของบุคคลก็ได้
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๓๓๙ ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย
หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
(๑) ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป
(๒) ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น
(๓) ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้
(๔) ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ
(๕) ให้พ้นจากการจับกุม
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาท ถึงสองแสนบาท
ถ้าความผิดนั้นเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดแห่งมาตรา
๓๓๕ หรือเป็นการกระทำต่อทรัพย์ที่เป็นโค กระบือ
เครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ผู้มีอาชีพกสิกรรมมีไว้ สำหรับประกอบกสิกรรม ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี
และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึง สามแสนบาท
มาตรา ๓๔๐ ตรี ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา ๓๓๙ มาตรา ๓๓๙ ทวิ
มาตรา ๓๔๐ หรือมาตรา ๓๔๐ ทวิ โดยแต่งเครื่องแบบทหารหรือตำรวจหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตำรวจ หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด
หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด
หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการ จับกุม ต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น
ๆ กึ่งหนึ่ง
อ้างอิง
เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์. คำอธิบายกฎหมายอาญาภาคความผิด
เล่ม 4. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์บริษัท
กรุงสยาม พับลิชชิ่ง จำกัด, 2557.
Tags
ฎีกาปี ๒๕๖๑
