จำเลยผู้รับโอนทรัพย์ซึ่งจำนองบอกกล่าวแจ้งความประสงค์ไถ่ถอนจำนองแก่โจทก์ ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๗๓๘ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้รับคำเสนอวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๘
จะไม่ยอมรับคำเสนอได้ก็ด้วยการฟ้องคดีเพื่อให้ศาลพิพากษาสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้นภายในวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๘ ตาม
ป.พ.พ.มาตรา ๗๓๙ การที่โจทก์ไม่แจ้งว่าเห็นชอบกับข้อเสนอของจำเลยหรือไม่ จะถือเป็นการไม่ยอมรับคำเสนอของจำเลยที่จะให้สิทธิแก่จำเลยสามารถไถ่ถอนจำนองได้ด้วยการใช้เงินหรือการวางเงินตามจำนวนที่เสนอว่าจะใช้แทนการชำระหนี้ตาม
ป.พ.พ.มาตรา ๗๔๑ หาได้ไม่ เมื่อครบกำหนด ๑ เดือน ที่โจทก์ไม่ฟ้องคดี จำเลยมิได้ใช้เงินหรือวางเงินตามจำนวนที่เสนอว่าจะใช้ภายในกำหนด ๖๐ วัน ตามคำเสนอของจำเลยจึงไม่เป็นการไถ่ถอนจำนองตาม ป.พ.พ.มาตรา ๗๔๑ แม้หลังจากนั้นจำเลยมีหนังสือลงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๘ ถึงโจทก์ขอให้กำหนดวันไถ่ถอนจำนองและขอชำระเงินในวันนัดไถ่ถอน
ณ สำนักงานที่ดิน แต่ภายหลังพ้นกำหนด ๖๐ วัน ตามคำเสนอของจำเลยแล้ว ทั้งหนังสือดังกล่าวไม่ได้กำหนดวันชำระเงินจึงยังไม่อาจถือว่ามีคำเสนอไถ่ถอนจำนองขึ้นใหม่
ต่อมาวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๘ จำเลยมีหนังสือถึงโจทก์ปฏิเสธการชำระหนี้ตามที่โจทก์มีหนังสือลงวันที่ ๑๗
กันยายน ๒๕๕๘ และขอชำระเงินไถ่ถอนจำนองตามจำนวนที่เสนอว่าจะใช้ดังกล่าวอีก โดยจะชำระในวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๘
ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยมีคำเสนอที่จะไถ่ถอนจำนองขึ้นใหม่ โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ ๙
ตุลาคม ๒๕๕๘ ภายใน ๑ เดือน นับแต่วันที่รับคำเสนอ จึงเป็นการไม่ยอมรับคำเสนอด้วยการฟ้องคดีตาม ป.พ.พ.มาตรา ๗๓๙ จำเลยไม่อาจไถ่ถอนจำนองด้วยการชำระเงินตามจำนวนที่เสนอว่าจะใช้ตาม
ป.พ.พ.มาตรา ๗๓๘ ได้
เพิ่มเติม
กรณีเจ้าหนี้ไม่ยอมรับคำเสนอตามมาตรา
๗๓๙ ต้องฟ้องคดีต่อศาลภายใน ๑ เดือน นับแต่วันได้รับคำเสนอ
กรณีเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องจดหมายบอกกล่าวผู้รับโอนว่าปฏิเสธไม่ยอมรับคำเสนอ โดยจะต้องฟ้องบังคับจำนองแก่ผู้รับโอนให้ชำระหนี้เพื่อให้ศาลสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนอง
ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับคำเสนอตามมาตรา ๗๔๑
ผู้รับโอนมีสิทธิตามคำเสนอนั้นคือเอาเงินไปชำระแก่เจ้าหนี้ทุกรายด้วยตนเอง
ในกรณีบางรายไม่ยอมรับเงิน แต่ไม่ฟ้องคดีตามมาตรา ๗๓๙ ผู้รับโอนมีสิทธินำเงินไปวางไว้
ณ สำนักงานวางทรัพย์ได้ และถือว่าเป็นการไถ่ถอนจำนองแล้ว
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๗๓๘
ผู้รับโอนซึ่งประสงค์จะไถ่ถอนจำนองต้องบอกกล่าวความประสงค์นั้นแก่ลูกหนี้ชั้นต้น
และต้องส่งคำเสนอไปยังบรรดาเจ้าหนี้ที่ได้จดทะเบียน
ไม่ว่าในทางจำนองหรือประการอื่น
ว่าจะรับใช้เงินให้เป็นจำนวนอันสมควรกับราคาทรัพย์สินนั้น
คำเสนอนั้นให้แจ้งข้อความทั้งหลายต่อไปนี้
คือ
(๑) ตำแหน่งแหล่งที่และลักษณะแห่งทรัพย์สินซึ่งจำนอง
(๒)
วันซึ่งโอนกรรมสิทธิ์
(๓)
ชื่อเจ้าของเดิม
(๔) ชื่อและภูมิลำเนาของผู้รับโอน
(๕) จำนวนเงินที่เสนอว่าจะใช้
(๖) คำนวณยอดจำนวนเงินที่ค้างชำระแก่เจ้าหนี้คนหนึ่ง
ๆ รวมทั้งอุปกรณ์และจำนวนเงินที่จะจัดเป็นส่วนใช้แก่บรรดาเจ้าหนี้ตามลำดับกัน
อนึ่ง ให้คัดสำเนารายงานจดทะเบียนของเจ้าพนักงานในเรื่องทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้น อันเจ้าพนักงานรับรองว่าเป็นสำเนาถูกถ้วนสอดส่งไปด้วย
มาตรา ๗๓๙
ถ้าเจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดไม่ยอมรับคำเสนอ
เจ้าหนี้คนนั้นต้องฟ้องคดีต่อศาลภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันมีคำเสนอเพื่อให้ศาลพิพากษาสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้น แต่ว่าเจ้าหนี้นั้นจะต้องปฏิบัติการดังจะกล่าวต่อไปนี้ด้วย
คือ
(๑)
ออกเงินทดรองค่าฤชาธรรมเนียมการขายทอดตลาด
(๒)
ต้องเข้าสู้ราคาเอง หรือแต่งคนเข้าสู้ราคาเป็นจำนวนเงินสูงกว่าที่ผู้รับโอนเสนอจะใช้
(๓)
บอกกล่าวการที่ตนไม่ยอมนั้นให้ผู้รับโอนและเจ้าหนี้คนอื่น ๆ บรรดาได้จดทะเบียน กับทั้งเจ้าของทรัพย์คนก่อนและลูกหนี้ชั้นต้นทราบด้วย
มาตรา ๗๔๑
เมื่อเจ้าหนี้ทั้งหลายได้สนองรับคำเสนอทั่วทุกคนแล้ว
โดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายก็ดี ท่านว่าจำนองหรือบุริมสิทธิก็เป็นอันไถ่ถอนได้ด้วยผู้รับโอนใช้เงิน
หรือวางเงินตามจำนวนที่เสนอจะใช้แทนการชำระหนี้
อ้างอิง
ปัญญา ถนอมรอด. คำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ว่าด้วย ยืม ค้ำประกัน จำนอง จำนำ.
พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์บริษัท กรุงสยาม พับลิชชิ่ง จำกัด, 2560.
Tags
ฎีกาปี ๒๕๖๑
