คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๐๐๙/๒๕๖๑ 

               กำหนดระยะเวลาให้นำคดีไปสู่ศาลเพื่อฟ้องเพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง ในกรณีที่ไม่นำคดีไปสู่ศาลภายในกำหนดดังกล่าวให้คำสั่งนั้นเป็นที่สุด ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๑๒๕ วรรคหนึ่ง และวรรคสองเป็นบทบัญญัติที่ประสงค์ให้คำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน ซึ่งเป็นการใช้อำนาจเจ้าหน้าที่ของรัฐบังคับไปด้วยความเร็วและมี ประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกจ้างได้รับความคุ้มครองอย่างเป็นธรรม ดังนั้น เงื่อนไขในการนำคดีไปสู่ศาลตามบทกฎหมายดังกล่าวจึงมิใช่เรื่องการใช้สิทธิเรียกร้องเพื่อการบังคับชำระหนี้ตามมูลหนี้ที่เกิดขึ้นตามกฎหมาย สัญญา หรือละเมิดที่อยู่ภายใต้บังคับของบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๑ หลักทั่วไป ลักษณะ ๖ อายุความ ซึ่งห้ามมิให้ศาลอ้างเอาอายุความมาเป็นเหตุยกฟ้องหากคู่กรณีมิได้ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ระยะเวลาในการนำคดีไปสู่ศาลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๑๒๕ วรรคหนึ่ง เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วย ความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลแรงงานกลางมีอำนาจยกขึ้น วินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๔๒ (๕) ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดี มาตรา ๓๑

 

               ตามฎีกานี้ เจ้าพนักงานตรวจแรงงานมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายค่าชดเชยให้แก่จำเลยร่วม โจทก์ได้รับคำสั่งดังกล่าวทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับโดยพนักงานของโจทก์เป็นผู้รับคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยเพื่อขอเพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๘ เกินกว่า ๓๐ วัน นับแต่วันทราบ

              

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

               มาตรา ๑๙๓/๒๙ เมื่อไม่ได้ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลจะอ้างเอาอายุความมาเป็นเหตุยกฟ้องไม่ได้