คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๔๑๐/๒๕๖๒ 

                    ศาลชั้นต้นสอบคำให้การ จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการซึ่งข้อหาความผิดตามฟ้องมิใช่เป็นคดีที่มีอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น ศาลชั้นต้นย่อมพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปได้ ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๖ วรรคหนึ่ง และข้อเท็จจริงย่อมรับฟังเป็นยุติได้ตามฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์นายจ้างโดยใช้รถมิกเซอร์คอนกรีตเป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ จะยกเอาข้อเท็จจริงตามบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาที่แนบท้ายคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหามาฟังว่า จำเลยเข้าไปลักแบตเตอรี่ในขณะที่รถมิกเซอร์คอนกรีตจอดอยู่ในโรงเก็บรถของผู้เสียหายมิใช่จำเลยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมมาเป็นเหตุยกฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๖ ทวิ ตามฟ้องหาได้ไม่

 

                    ตามฎีกานี้ โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๑๑) วรรคแรก, ๓๓๖ ทวิ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๑๑) วรรคแรก ส่วนข้อหาอื่นให้ยก

 

เพิ่มเติม

               ฎีกาที่ ๑๒๖๘๑/๒๕๕๘ โจทก์บรรยายฟ้องระบุไว้อย่างชัดเจนว่า จำเลยลักสร้อยคอทองค่า หนัก ๓ บาท ๑ เส้น พร้อมพระสมเด็จหลวงพ่อโสธร ๑ องค์ ของ อ. ผู้เสียหายไป โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม ขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๕, ๓๓๖ ทวิ ซึ่งข้อหาความผิดตามฟ้องมิใช่เป็นคดีที่มีอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น เมื่อศาลชั้นต้นสอบคำให้การ และจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการ ศาลชั้นต้นย่อมพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๗๖ วรรคหนึ่ง และข้อเท็จจริงย่อมรับฟังเป็นยุติได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ จะยกเอาข้อเท็จจริงตามคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหามาฟังว่าจำเลยใช้ยานพาหนะในการเดินทางไปมาเท่านั้น มิใช่จำเลยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปมาเป็นเหตุยกฟ้องในความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๖ ทวิ หาได้ไม่

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

               มาตรา ๑๗๖ ในชั้นพิจารณา ถ้าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจะพิพากษาโดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไปก็ได้ เว้นแต่คดีที่มีข้อหาในความผิดซึ่งจำเลยรับสารภาพนั้นกฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างต่ำไว้ให้จำคุกตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปหรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง

               ในคดีที่มีจำเลยหลายคน และจำเลยบางคนรับสารภาพ เมื่อศาลเห็นสมควรจะสั่งจำหน่ายคดี สำหรับจำเลยที่ปฏิเสธเพื่อให้โจทก์ฟ้องจำเลยที่ปฏิเสธนั้น  เป็นคดีใหม่ภายในเวลาที่ศาลกำหนดก็ได้